จับได้เเล้ว !! โจรโหด ชิงทองลพบุรี วัย 38 ปี มีอาชีพครู
22 ม.ค. 2563, 10:14
จากคดีสะเทือนขวัญคนไทยทั้งประเทศ วันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา คนร้ายบุกเดี่ยว ปล้นร้านทองออโรร่า ภายในห้างโรบินสัน อ.เมืองจ.ลพบุรี โดยใช้อาวุธปืนเก็บเสียงยิงเปิดทาง ใส่ประชาชนที่เดินห้าง และพนักงานร้านทอง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 3 ศพ ในจำนวนนี้มีเด็กชายวัย 2 ขวบ โดนลูกหลงเสียชีวิตด้วย
จากนั้นตำรวจทุกภาคส่วน ได้ระดมกำลังออกติดตามและหาเบาะแสของโจรโหดรายนี้ โดยไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั่วเมือง รวมถึงตามเส้นทางที่ใช้ลพบุรี เบื้องต้นคาดยังกบดานในพื้นที่ ซึ่งจากเบาะแสพบคนร้ายใส่ชุดแบรนด์เนมมีราคาแพงทั้งตัว ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก็ราคาสูงเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงแกะรอยหาเบาะแส พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยแจ้งเบาะแส โดยมีรางวัลนำตัวและค่าหัวหลายแสนบาท
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ม.ค. เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวคนร้ายที่ลงมือโหดปล้นทองและยิงจนมีผู้เสียชีวิต 3 ศพได้แล้ว นายประสิทธิชัย เขาแก้ว อายุ 38 ปี เป็นครูระดับผู้อำนวยการโรงเรียน กินตำแหน่งข้าราชการระดับชำนาญการ สังกัด สพป.สิงห์บุรี จบการศึกษาจบระดับปริญญาโท ระดับชั้นที่ทำการสอนคือประถมศึกษา กลุ่มสาระศึกษา สุขศึกษา พละศึกษา บิดามีอาชีพเป็นตำรวจ มารดาเป็นครู อาวุธที่นำมาก่อเหตุเป็นของพ่อ
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหา เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน และให้การรับสารภาพว่าปล้นทองและยิง 3 ศพจริง ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีนี้ด้วยตนเอง
ล่าสุดช่วงบ่าย ที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวลพบุรี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แถลงข่าวผลการจับกุม นายประสิทธิชัย เขาแก้ว โดยท่านผบ.ตร. เผยว่า พรุ่งนี้ 10.30 น จะแถลงทั้งหมดที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันไม่มีการจับแพะแน่นอน เป็นคนที่เล็งไว้แต่แรกอยู่แล้ว ตอนนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว คนร้ายก็สำนึกผิด ให้การว่าก่อเหตุเพียงคนเดียว เบื้องต้นแจ้งข้อหารวม 6 ข้อหา
ด้านผู้สื่อข่าวให้ข้อมูลต่อว่า ช่วงที่ถูกจับกุมตัว ผู้ต้องหามีอาการเครียด และตัดพ้อว่าอยากตาย ช่วงที่หลบหนีก็ดูข่าวตลอด ตั้งใจว่า จะไม่ยอมให้จับกุมเด็ดขาด จะต่อสู้ แต่ตำรวจมาไวกว่าที่คาดไว้ เลยเตรียมการไม่ทัน ส่วนมูลเหตุที่ลงมือ มาจากมีปัญหาชีวิตรุมเร้า ส่วนสาเหตุที่ลงมือยิงผู้บริสุทธิ์จนเสียชีวิต 3 ศพ เนื่องจากต้องการถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรม เพราะตนเองมีปัญหาชีวิต และปัญหาเรื่องของหนี้สิน ซึ่งทองของกลางได้เอาไปโยนทิ้งลงคลอง ส่วนหลักฐานอื่น ๆ เผาทิ้งไปแล้ว
มีรายงานด้วยว่า จากการสอบสวน นายประสิทธิชัย ให้การรับสารภาพ โดยรับว่าสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุนั้นเพราะตนเองรู้สึกเบื่อกับชีวิต ต้องการหาความท้าทาย ตื่นเต้น ชีวิตจะได้มีสีสัน นอกจากนี้ตนยังรู้ตัวดีว่าหลังก่อเหตุจะถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้อยู่แล้ว ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุนั้นเป็นปืนยี่ห้อ ซีแซต รุ่น เอสพี 01 ซึ่งเป็นปืนของพ่อที่เป็นอดีตตำรวจ หลังจากก่อเหตุเสร็จก็นำไปคืนพ่อเมื่อวันที่ 10 ม.ค. ส่วนรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฟีโน่ สีแดง รุ่นปี 2008 เป็นรถจักรยานยนต์ของพ่อตาซึ่งตนเองก็ยืมมาเพื่อใช้ในการก่อเหตุด้วยเช่นกัน และขณะนี้รถคันดังกล่าวตนได้นำไปคืนให้กับพ่อตาแล้ว อย่างไรก็ตามแม้คำให้การของผู้ต้องหาจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีแต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การในบางส่วน และจะทำการเค้นสอบอย่าละเอียดอีกครั้งเพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง ก่อนจะเตรียมนำตัวไปแถลงที่ สตช. ในวันพรุ่งนี้ต่อไป
ที่มา ข่าวสด