"ชาวพังงา" ร่วมซ้อมแผนอพยพแผ่นดินไหว หนีคลื่นยักษ์สึนามิ เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์
24 มิ.ย. 2562, 14:35
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธาณภัยจังหวัดพังงา ได้ร่วมกับชาวบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ได้ร่วมการซ้อมแผนความพร้อมป้องกันภัยสึนามิ โดยได้สมมุติเหตุการณ์ว่าเกิดแผ่นดินไหว ในทะเลขนาด 9 ริกเตอร์ ความลึก 10 กิโลเมตร บริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์ ประเทศอินโดนีเซีย ห่างจากประเทศไทยประมาณ 440 กิโลเมตร คาดว่ามีโอกาสสูงที่จะเกิดคลื่นสึนามิ ซึ่งทาง ศภช.ได้รับอนุญาตจากท่าน อปภ. ให้ทำการส่งสัญญาณเสียงเตือนภัยไปยังพื้นที่เสี่ยงภัย
จากนั้นทางป้องกันและบรรเทาสาระภัยจังหวัดพังงา ได้รับแจ้งจาก ศภช.ว่าขณะนี้ได้รับการยืนยันการเกิดคลื่นสึนามิ จากข้อมูลจากสถานีวัดระดับน้ำจากเกาะเมียง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน อ.คุระ จ.พังงา และข้อมูลตามแบบจำลองคลื่นสึนามิ และข้อมูลจากแบบจำลองคาดการณ์สินามิ คาดว่าคลื่นสึนามิ จะเข้าชายฝั่งหาดแหลมโพธิ์จังหวัดกระบี่ในอีก 1 ชั่วโมง 25 นาที จึงให้ทำการส่งสัญญาณเสียงเตือนภัยไปยังพื้นที่อีกครั้งพร้อมทำการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ไปยังจุดปลอดภัย
โดยจากการติดตามสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่พบว่าคลื่นได้เข้ากระทบฝั่งของจังหวัดพังงา ซึ่งมีความสูงขึ้นประมาณ 3 เมตรและได้ทำการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ไปยังจุดที่ปลอดภัย 100% แล้วตามแผนอพยพและเผชิญเหตุของจังหวัดพร้อมกระจายข้อมูลให้พื้นที่รับทราบ
หลังจากเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ พบว่า มีผู้บาดเจ็บทั้งในเหตุการณ์ และอุบัติเหตุบนถนนจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลโรงพยาบาลตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมฆคาตะกั่วป่า และเจ้าหน้าที่ศูนย์เตรียมความพร้อมบ้านน้ำเค็ม ได้เข้าทำการช่วยเหลือ ทั้งผู้ประสบภัยคลื่นยักษ์พัดถล่ม และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น โดยให้อพยพเข้าที่ปลอดภัยซึ่งกำหนดไว้ที่ โรงเรียนบ้านน้ำเค็ม มีการตรวจสอบรายชื่อ แจ้งคนหาย และลงทะเบียนต่างๆ เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของบุคคลในพื้นที่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เข้าพื้นที่
จากนั้นสรุปความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว ต่อมา ได้สรุป และประเมินการซักซ้อมแผนความพร้อมป้องกันภัยสึนามิ ซึ่งการซักซ้อมแผนความพร้อมรับมือพิบัติภัย ในพื้นที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ผลการซักซ้อมครั้งนี้พบว่า ประชาชนเริ่มมีความชำนาญและรู้จักหน้าที่หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงก็สามารถเข้าใจว่าแต่ละคนมีหน้าที่ มีบทบาทอย่างไร โดยรับรู้ได้ว่าการพัฒนาเกิดจากการซักซ้อมให้เกิดความชำนาญ และรับรู้ถึงปัญหาได้เป็นอย่างดี