นายกเล็กปากแพรก ควง ส.อบจ.กาญจน์ ตั้งโต๊ะแถลงค้านสร้างสะพานลอยข้าม 4 แยกวังสารภี
5 ก.พ. 2563, 16:52
จากกรณีกรมทางหลวงเตรียมดำเนินการ โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทางแยก ตัดทางหลวงหมายเลข 324 กับทางหลวงหมายเลข 367 (แยกวังสารภี) ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ที่ กม.2+586 ด้วยการใช้งบประมาณปี 2563 จำนวน 450 ล้านบาท โดยวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา แขวงทางหลวงกาญจนบุรี ได้จัดเวทีประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลปากแพรก โดยในวันดังกล่าวนั้นมีประชาชนเข้าร่วมไม่มากนัก ซึ่งบางส่วนไม่ต้องการให้สร้างสะพานแต่เสนอให้สร้างเป็นอุโมงค์ทางลอดสี่แยกวังสารภีแทนเพื่อรักษาทัศนียภาพพื้นที่โดยรอบเอาไว้ ถึงแม้การสร้างอุโมงค์จะใช้งบประมาณที่สูงและใช้เวลาในการก่อสร้างเพิ่มขึ้นก็ตาม
ล่าสุดวันนี้ ( 5 ก.พ. 63 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายปราโมทย์ อุ่นจิตสกุล นายกเทศบาลตำบลปากแพรก นายจรันต์ ยิ่งภิญโญ สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี อำเภอเมือง เขต 3 นายประสาน นิยมทรัพย์ สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด อำเภอเมือง เขต 1 นายสมบัติ จิตรธรรม อดีตกำนันตำบลปากแพรก และนายณัฐฐพล ภู่ทองชิน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.ปากแพรก ตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงโครงการดังกล่าวที่ร้านกาแฟ แบล็ค ริสเท็ตโต้ ที่ตั้งอยู่ริมถนนสายบายพาส ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
ทั้งนี้ นายจรันต์ ยิ่งภิญโญ ส.อบจ.กาญจนบุรี (เสื้อสีขาวแขนยาว) กล่าวว่า จากกรณีกรมทางหลวงได้มาทำประชาคมกับชาวตำบลปากแพรกเมื่อวานนี้ (4 ก.พ.) เรื่องการสร้างสะพานลอยข้ามสี่แยกวังสารภีจุดตัดถนนสาย 324 กับสาย 367 เนื่องจากว่าการสร้างสะพานลอย ได้งบประมาณปี 2563 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 450 ล้านบาท ซึ่งการก่อสร้างนั้นกรมทางหลวงได้ออกแบบมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งกรมทางหลวงได้ประสานกับ พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ส.ส.จังหวัดกาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ เขต 1 ในการดึงงบประมาณ จำนวนนี้ลงมาในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี
ที่สำคัญที่สุดคือการก่อสร้างสะพานลอยนั้นแบบได้ออกมาเป็นที่เรียบร้อยในการที่จะสร้าง และที่สำคัญที่สุดคืองบประมาณใช้งบประมาณปี 63 ที่จะถึงนี้ ซึ่งการเตรียมการดำเนินการก่อสร้างไม่เคยผ่านการประชาคม และไม่เคยให้ผู้นำท้องถิ่น รวมทั้งนายกเทศบาลตำบลปากแพรก ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ได้รับรู้ถึงงบประมาณในการก่อสร้างในครั้งนี้ และที่สำคัญที่สุดประชาชนในท้องที่โดยรอบแยกวังสารภีไม่เคยรับรู้เลยว่าจะมีสะพานลอยเกิดขึ้นบริเวณแยกวังสารภี
การที่จังหวัดกาญจนบุรีได้งบประมาณมา สำคัญที่สุดคือกาญจนบุรีนั้นเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของภาคตะวันตก ซึ่งพวกเราเป็นผู้ช่วย สส.พล.อ.สมชาย ได้ทำแผนงบประมาณให้กับ สส.เนื่องจากว่าบริเวณสี่แยกวังสารภีเป็นจุดตัดที่สำคัญที่สุดที่จะมุ่งหน้าเข้าตัวเมือง รวมทั้งมุ่งหน้าไปยังแหล่งท่องเที่ยวทางด้าน อ.ไทรโยค สังขละบุรี ทองผาภูมิ และศรีสวัสดิ์
ซึ่งจุดตัดสี่แยกไฟแดงวังสารภีมีรถผ่านมากถึงวันละ 2 หมื่นกว่าคัน แต่กรมทางหลวงได้ออกแบบในการก่อสร้างสะพานเป็นที่เรียบร้อย และกำลังจะก่อสร้างอยู่แล้ว แต่มีปัญหาขึ้นเนื่องจาก พล.อ.สมชาย ได้ไปพูดในสภาว่าการก่อสร้างไม่ผ่านการประชาคม เพื่อให้ชาวบ้านเขาได้รับรู้
และการประชาคมเมื่อวานนี้ ประชาชนเดินทางมาไม่มากนักเพราะไม่ได้รับรู้เนื่องจากไม่มีการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้า แต่ตนพร้อมด้วยนายกประสาน รวมทั้งนายกเทศบาลปากแพรก รวมทั้งผู้นำท้องถิ่นก็ได้เข้าร่วมประชุมด้วย ในที่ประชุมเราได้ถกเถียงกันในเรื่องงบประมาณ เนื่องจากชาวบ้านเล็งเห็นว่า การสร้างสะพานลอยนั้นเป็นสิ่งที่ล้าสมัยไปแล้ว เนื่องจากว่าเมืองกาญน์เป็นแงการท่องเที่ยว จึงต้องการให้สร้างอุโมงค์ลอดทางแยกวังสารภี เพื่อให้ด้านบนของอุโมงค์มีทัศนียภาพที่ดี ส่วนชาวบ้านที่อยู่โดยรอบก็สามารถทำมาค้าขายได้ โดยไม่ได้รับผลกระทบในอนาคตข้างหน้า และเนื่องจากว่าหากมีการสร้างสะพานลอย จะทำให้พื้นที่ด้านล่างนั้นใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย
นายจรันต์ กล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้มีชาวบ้านมาร่วมประชุมและทุกคนได้ลงความเห็นว่า การที่จะสร้างสะพานลอยขอให้ยุติ และขอให้ไปสร้างอุโมงค์แทน แต่ในวันดังกล่าวได้เอาวิศวกร มาแจ้งว่าการสร้างอุโมงค์จะทำให้มีอุปสรรคเยอะ โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับระบบน้ำ รวมทั้งหากเจาะลงไปจะเป็นหินด่างหรือไม่ และหากก่อสร้างก็ต้องใช้งบประมาณเพิ่มอีกประมาณ 250 ล้านบาท รวมทั้งต้องขยายระยะเวลาการก่อสร้างออกไปเป็นปี แต่วานนี้ พล.อ.สมชาย ได้บอกแล้วว่า เรื่องงบประมาณนั้นมีอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการขยายเวลาก่อสร้างเพิ่มขึ้นพวกเราก็ยอม จะขยายเวลาออกไปเป็น 4-5 ปี เราก็ยอม
" แต่พวกเราก็ยังยืนยันในวัตถุประสงค์เดิมคือเราชาวบ้านตำบลปากแพรกที่อยู่บริเวณใกล้เคียง รวมทั้งเชื่อว่าห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ 2-3 แห่ง ที่อยู่บริเวณนั้นก็คงไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการสร้างสะพานลอย แต่ปัญหาที่สำคัญก็คืองบประมาณนั้นได้ตกลงมาแล้ว จำนวน 450 ล้านบาท และหากรัฐธธรรมนูญ มีความเห็นลงมาว่าไม่ผิดหรือไม่ติดขัด กรมทางหลวงก็สามารถใช้งบประมาณ จำนวน 450 ล้านบาทสร้างสะพานลอยได้เลย โดยหากกรมทางหลวงเลือกสร้างสะพานลอย พวกเราก็จะคัดค้านให้ถึงที่สุด" นายจรันต์ กล่าว
ด้าน นายปราโมทย์ อุ่นจิตสกุล (เสื้อแจ็คเก็ตสีดำแขนยาว) นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลปากแพรก กล่าวว่า ในความเห็นของทางเทศบาล ว่าหลักในการสำรวจทำงบประมาณอะไรก็ตาม จะต้องมีการประชุมประชาชน และระหว่างก่อนออกแบบและสำรวจพื้นที่จะต้องถามประชาชนก่อนว่าเขาต้องการอะไร เมื่อทราบความต้องการจึงค่อยสำรวจพื้นที่เพื่อออกแบบ ถ้าทำเช่นนี้มันก็จะไม่เกิดปัญหาตามมา ซึ่งหากได้งบประมาณมาแล้ว ออกแบบมาแล้วและสร้างตามนั้นเลยมันก็จะเป็นการขัดกับความรู้สึกของประชาชน
ตนคิดว่ากรมทางหลวง น่าจะมีวิธีปรับปรุงได้เนื่องจากงบประมาณแม้ว่าจะไม่เพียงพอสำหรับการสร้างอุโมงค์ ก็สามารถสับเปลี่ยนแก้ไขใหม่ได้ เพราะขณะนี้เพิ่งจะต้นปีงบประมาณ การที่จะสำรวจเพื่อออกแบบใหม่ ไม่ใช่จะถึงขั้นที่ว่าทำไม่ทันในปีงบประมาณ ซึ่งงบเพิ่มเติมนั้น ท่าน สส.พล.อ.สมชาย ท่านก็ได้ยืนยันมาแล้วว่าไม่มีปัญหาอะไร
อีกประการหนึ่งคือกรมทางหลวง กับประชาชนในพื้นที่จะต้องมาทำความเข้าใจว่าในการก่อสร้างอะไร จะต้องให้เกิดประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่เป็นสำคัญ พร้อมทั้งหากสร้างอะไรแล้วจะต้องให้เกิดประโยชน์ในด้านการท่องเที่ยว และในด้านการใช้ประโยชน์ของท้องถิ่น เพราะฉะนั้นเมื่อมีงบประมาณจำนวนมากๆ จะต้องมาชั่งใจว่า หากสร้างไปแล้วประโยชน์ที่ได้รับมันจะต้องคุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้ไป
นายปราโมทย์ อุ่นจิตสกุล กล่าวต่อว่า ถามว่าการคัดค้านจะคัดค้านในรูปแบบใดนั้น ในการคัดค้านตนคิดว่าพี่น้องชาวปากแพรก มีความไม่เห็นด้วยกับการสร้างเป็นสะพานลอย แต่กรมทางหลวงก็ต้องมีหลักในการให้คำตอบกับประชาชนได้ว่า ระหว่างสร้างเป็นสะพานลอยกับสร้างเป็นอุโมงค์ทางลอดสี่แยกนั้นเมื่อชั่งน้ำหนักแล้วสิ่งไหนจะได้ประโยชน์มากกว่ากัน และควรจะทำในลักษณะของโมเดล เพื่อมาสื่อสารให้ประชาชนทราบเสียก่อน แล้วค่อยมาตัดสินใจกันอีกครั้งหนึ่งก็ยังทัน