วันนี้ ( 17 ก.พ.63 ) นพ.สุขุม กาญนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการแถลงข่าวสถานการณ์ประจำวัน กรณีโรค COVID-19 ในประเทศไทยว่า แม้ไทยจะคุมสถานการณ์เป็นขั้น 2 คือระบาดในประเทศวงจำกัดได้ แต่ล่าสุดได้ประชุมวิดิโอคอนเฟอร์เรนซ์กับสำนักงานเขตสุขภาพทั่วประเทศ ย้ำทุกเขตโดยเฉพาะเขตสุขภาพที่มีความเสี่ยงเพราะเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งเขตสุขภาพที่ 1 เชียงใหม่ เขตสุขภาพที่ 6 ชลบุรี และเขตสุขภาพที่ 11 เน้นคัดกรองเข้มข้นผู้เข้าข่ายสงสัยป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 19 เพิ่มเติมไม่เฉพาะนักท่องเที่ยวจีน แต่เพิ่มเติมนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและสิงคโปร์ ด้วย ให้สาธารณสุขจังหวัดทำแผนปฏิบัติการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงในในพื้นที่ตั้งแต่ระดับอำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน นอกจากนี้ยังให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศเตรียมรับนโยบายพัฒนาโรงพยาบาลในจังหวัดให้สามารถเป็นจุดตรวจยืนยันโรค COVID-19 ให้ได้อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง ภายใน 1-2 เดือนนี้ 

สำหรับสถานการณ์ภาพรวมโรค COVID-19 ในประเทศไทยวันนี้ พบผู้ป่วยเพิ่ม 1 ราย เป็นครอบครัวของผู้ป่วยชาวจีนที่เฝ้าระวังอาการมาก่อนหน้านี้ ทำให้ล่าสุดไทยพบผู้ป่วยสะสม 35 ราย รักษาหายกลับบ้านได้แล้ว 15 ราย ซึ่งอัตรารักษาหายอยู่ที่ร้อยละ 40 ถือเป็นประเทศที่มีอัตรารักษาหายสูงสุด

ขณะที่ ผลการดำเนินงานที่ด่านควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 3 – 23 มกราคม 2563 ได้เฝ้าระวังคัดกรองผู้โดยสารเที่ยวบินตรงจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต และกระบี่ ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2563 ขยายเพิ่มที่ท่าอากาศยานเชียงราย และตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2563 – 15 กุมภาพันธ์ 2563 คัดกรองเที่ยวบินจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทั้งขาเข้าและขาออกจากประเทศจีน สะสมทั้งสิ้น 827 เที่ยวบิน รวมคัดกรองผู้เดินทางและลูกเรือสะสม 70,377 ราย และคัดกรองสะสมเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทั้งขาเข้าและขาออก 1,512,955 ราย ทางกระทรวงสาธารณสุขได้จัดเจ้าหน้าที่หมุนเวียนไปสนับสนุนเจ้าหน้าที่ที่ด่าน เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง