ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 ที่โรงแรมดอนจัน เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) กระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-จีน สมัยพิเศษ ว่าด้วยการแพร่ระบาดโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยมี นายทีโอโดโร โลเปซ ล็อกซิน จูเนียร์ รมว.ต่างประเทศฟิลิปปินส์ และนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรมว.ต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นประธานร่วมในการประชุมดังกล่าว ขณะที่ รมว.ต่างประเทศของไทย, สปป.ลาว, เมียนมาร์, กัมพูชา, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, บรูไน และสิงคโปร์ เข้าร่วมด้วย ซึ่งจะมีการหารือถึงการร่วมกันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว ซึ่งสร้างผลกระทบอย่างกว้างขวางในภูมิภาคและทั่วโลก

 

          ทั้งนี้ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-จีน สมัยพิเศษ ครั้งนี้จะหารือถึงมาตรการการระยะสั้น, ระยะกลาง และระยะยาว ในการดูแลประชาชนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในทุกด้าน พร้อมเตรียมการรับมือหากเกิดโรคใหม่ในอนาคต สำหรับการดำเนินการของไทยในการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศว่าไทยมีความพร้อม เพราะเรามีประสบการณ์จากอดีตในการรับมือจากการแพร่ระบาดจากโรคซาร์ส ปี พ.ศ.2546 และโรคอื่นๆ จนได้รับความไว้วางใจจากนานาชาติ เข้ามารับการรักษาจากสถาบันบำราศนราดูรซึ่งสามารถรักษาให้หายขาดได้

          ส่วนการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดจากเชื้อไวรัสโคโรนาของไทย มีผู้ติดเชื้อ 35 คน ผู้ที่ได้รับการรักษาจนหายดีและแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว มีจำนวน 17 คน แบ่งเป็นชาวไทย 3 คน และชาวจีน 14 คน ซึ่งถ้าเทียบกับบางประเทศ ถือว่าอยู่ในระดับทรงตัว เพราะไทยมีมาตรการเฝ้าระวังพร้อมกับเผยแพร่คำแนะนำวิธีการปฏิบัติดูแลตัวเองตั้งแต่เริ่มมีข่าวการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว ในวันที่ 4 มกราคม ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ทางการจีนประกาศปิดนครอู่ฮั่น โดยเราไม่ได้ทำเฉพาะการตรวจเข้มที่สนามบิน แต่ยังมีการสร้างการรับรู้ในหมู่ประชาชน ทั้งนี้ถือว่าสถานการณ์ในไทยยังโชคดี เพราะประชาชนของเรามีการดูแลสุขภาพตัวเองดีในระดับหนึ่ง