ชาวบ้านถูกแก๊งวัยรุ่นไล่ตีกันทำร้ายร่างกาย หลังกลับจากรถแห่งานบวช บาดเจ็บ 4 ราย
2 มี.ค. 2563, 18:44
วันที่ 2 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า กรณีเฟชบุ๊ก Red skull society นำคลิปภาพกลุ่มวัยรุ่นไล่ทุบตีชาวบ้าน ที่บ้านเทพพัฒนา อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ จนโลกออนไลน์ต่างออกมาวิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก โดยล่าสุด พ.ต.ท.สุพล มีศิลป์ รอง ผกก.สืบสวน สภ.ปะคำ ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ บริเวณร้านค้าของนายสมัคร สายเบาะ อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 51 หมู่ 2 ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ พบมีร่องรอยความเสียหายเป็นป้ายโฆษณาหน้าร้าน มีเศษไม้เศษหินตกอยู่ทั่วบริเวณ
สอบถามนายสมัคร สายเบาะ(เสื้อกีฬาน้ำเงิน) เจ้าของร้านเล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนก็เปิดร้านตามปกติ เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.หลังจากรถแห่เลิกจากการแห่นาคในงานอุปสมบถในหมู่บ้าน ได้มีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถมอเตอร์ไซค์หลายคันไล่กัน พร้อมตะโกนด่ากับวัยรุ่นในหมู่บ้านที่เดินมา แล้วไล่ทุบตีกัน วัยรุ่นบางคนได้วิ่งหนีเข้าในร้าน กลุ่มที่ขับรถไล่มาพยายามจะเข้าไปในร้าน ตนก็ห้ามเพราะเกรงร้านจะได้รับความเสียหาย กลุ่มวัยรุ่นจึงเอาก้อนหินขว้างเข้าไปในร้าน ก้อนหินไปโดนลูกค้าเจ็บ 1 ราย
จากนั้นนายสุรพงษ์ อ่อนหนองหว้า อายุ 39 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ซึ่งอยู่บริเวณนั้นเห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปห้าม แต่กลับถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายจนสลบคาที่ (ตามคลิปภาพ) และยังทำร้ายลูกค้าที่อยู่หน้าร้านอีก 2 คนจนได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ก่อนวัยรุ่นจะขับรถหนีไป นายกิติวรา ปัจมร อายุ 45 ปี (เสื้อยืดขาว)หนึ่งในผู้บาดเจ็บเล่าว่า ตนพาหลานมาซื้อของในร้านค้า เมื่อมาจอดหน้าร้าน จู่ๆวัยรุ่นก็ใช้ไม้มาทุบด้านหลัง ตนก็พยายามสู้แต่สู้ไม่ไหวเพราะวัยรุ่นมาหลายคน ส่วนหลานวิ่งหลบหนีไปก่อน
ด้านนายนายสุรพงษ์ อ่อนหนองหว้า (เสื้อน้ำเงินพันคอรักษา)ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเทพพัฒนา หมู่ 2 กล่าวว่า ตนเห็นเหตุการณ์ก็เข้าแสดงตัวแล้วเข้าไปห้าม แต่กลุ่มวัยรุ่นไม่สนใจใช้ไม้มารุมทุบแบบไม่สนใจใคร ตนพยายามสู้แต่สู้ไม่ไหว ก่อนจะหมดสติไป สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 4 คน อาการสาหัสต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล 2 คน คือนายปิติ เวียงสมุทร อายุ 24 ชาวบ้านเทพพัฒนา และนายสุรพงษ์ อ่อนหนองหว้า ผู้ช่วย ผญบ.
อย่างไรก็ตามล่าสุดตำรวจ สภ.ปะคำ รู้ตัวแก๊งวัยรุ่นที่ก่อเหตุแล้ว ทั้งหมดมีมากกว่า 10 คน อยู่ต่างหมู่บ้าน ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ซึ่งตำรวจกำลังตามตัวมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป