วันที่ 8 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายสิทธิพร โพธิ์ชัย อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 31 ม.4 ต.ยาสว่าง อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งคณะกรรมการจัดทำแผนบริหารจัดการลุ่มน้ำจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ตนในฐานะคณะกรรมการฯ ได้ติดตามสภาพปัญหาของระดับน้ำในลำห้วยทับทันมาตลอด จากสถานการณ์ภัยแล้งที่ส่งผลต่อปริมาณน้ำในลำห้วยแห้งถือว่าหนักในรอบ 50 ปี พื้นลำห้วยหลายแห่งพบเห็นสันทรายตลอดแนว กิจการแพท่องเที่ยวที่เกิดจากการรวมกลุ่มของชุมชนซึ่งมีจำนวน 2 กิจการก็ต้องชะงัก

โดยสาเหตุจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาน้อย และจากการที่สองจังหวัดทั้งฝั่งของจังหวัดสุรินทร์ ฝั่งของจังหวัดศรีสะเกษ มีการสูบน้ำไปใช้ในการอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะการทำนาปรัง ซึ่งขณะนี้ ชาวบ้านที่ทำนาปรัง ขาดแคลนน้ำไปเลี้ยงต้นข้าวอย่างหนัก ตนเห็นว่าหากไม่ร่วมกันแก้ปัญหาตั้งแต่บัดนี้อาจจะเกิดปัญหาใหญ่ถึงกับแย่งชิงการใช้น้ำของคนสองจังหวัด จนนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งในอนาคตได้ จึงคิดว่าควรมีการจัดเวทีประชาคมของหน่วยงานรัฐและชาวบ้านจากสองจังหวัด มาร่วมหาแนวทางออกและแก้ไขให้เกิดผลในระยะยาวต่อไป

 

 

 

นางทองฮัก เพ็งพินิจ อายุ 69 ปี บ้านเลขที่ 25 ม.6 บ้านยางเตี้ย ต.ยางสว่าง กล่าวว่า วันนี้ตนจ้างชาวบ้านมาเจาะน้ำบาดาลที่ทุ่งนา พร้อมซื้อเครื่องสูบน้ำมาใหม่ ลงทุนไปทั้งหมดประมาณหมื่นกว่าบาท หวังได้น้ำไปเลี้ยงต้นข้าวนาปรังที่ปลูกประมาณ 4 ไร่ ซึ่งก็มีหลายรายเร่งเจาะบาดาล เช่นกัน แต่บางรายก็ยอมตัดต้นข้าวไปให้วัวควาย หรือปล่อยให้ต้นข้าวยืนตายไปเอง

ขณะที่ นายสมพงษ์ เรื่องสัตย์ อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 4 ม.9 บ้านหนองบัว ต.เบิด อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ได้เปิดเผยว่า ตนเองเป็นหัวหน้าสถานีสูบน้ำด้วยระบบไฟฟ้าจากลำห้วยทับทัน บริเวณบ้านหนองบัว ต.เบิด มีหน้าที่คอยเปิดน้ำส่งให้กับชาวบ้านที่ทำนาปรังประมาณ 1,174 ไร่ ชาวบ้านหลายรายก็เก็บเกี่ยวแล้ว แต่คาดว่าจะได้ผลประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ เพราะหลายคนก็ปล่อยต้นข้าวทิ้งไปแล้วเพราะลำห้วยน้ำแห้งขอด ตนเห็นว่าควรมีการปรับปรุงสร้างฝายน้ำล้น บริเวณฝายอาจารย์หมาน ในพื้นที่ ต.ยางสว่าง อ.รัตนบุรี กับ ต.อีเซ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ จะสามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้ตลอดไปได้

สิ่งที่น่าวิตก ตนพบว่าชาวบ้านจาก ต.ตาโกน อ.เมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ มีการทำประมงใช้ไม้กั้นขวางลำห้วย อาจทำให้ระบบการไหลของน้ำไม่เป็นไปตามธรรมชาติ ยิ่งกว่านั้นยังทำให้พื้นผิวบริเวณที่กั้น กลายเป็นที่ทับถมของกองทรายที่ไหลมารวมกัน เป็นปัญหาต่อการไหลของกระแสน้ำอย่างมาก ตนอยากวิงวอนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ให้ความสนใจ และร่วมสร้างความเข้าใจร่วมกัน

อย่างไรก็ตามในสถานการณ์น้ำลำห้วยทับทันแห้งขอดที่รุนแรงในรอบ 50 ปีนี้ ในบางพื้นที่ บางอำเภอ ชาวบ้านได้ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐในการใช้น้ำอย่างประหยัดได้อย่างดี โดยบางพื้นที่มีการสร้างฝายน้ำล้นเพื่อกักเก็บน้ำไว้สำหรับประชาชนในพื้นที่ของตนด้วย