จากกรณีนายอิทธิพล กาญจนโรมนต์ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนบ้านหลุมรัง หมู่ 5 ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ประกาศปิดโรงเรียน ขึ้นระหว่างวันที่ 9-13 มี.ค.63 ที่ผ่านมา รวมเป็นเวลา 5 วัน โดยจะเปิดให้เด็กนักเรียนมาสอบก่อนปิดเทอมในวันที่ 16-18 มี.ค.

ส่วนสาเหตุการประกาศปิดโรงเรียนนั้น เนื่องมาจากก่อนหน้านี้คณะเจ้าหน้าที่ทีมสอบสวนโรค สาธารณสุขอำเภอบ่อพลอย พบมีผู้ปกครองของเด็กนักเรียนเพิ่งเดินทางกลับมาจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ และได้เดินทางมาส่งลูกและหลานที่โรงเรียนดังกล่าว คณะเจ้าหน้าที่จึงเกรงว่าบุคคลดังกล่าวอาจจะติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19)

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชาวอำเภอบ่อพลอย ต่างรู้สึกวิตกกังวลใจเป็นอย่างมาก แต่มาภายหลังบุคคลดังกล่าว ได้ยอมรับสารภาพความจริงว่า เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศบาห์เรน ไม่ใช่เพิ่งกลับมาจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ แต่อย่างใด แต่การที่ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ไปว่าเพิ่งเดินทางกลับมาจากเกาหลีใต้นั้น แค่สร้างกระแส เพราะความอยากจะดังเท่านั้น

ล่าสุดวันนี้ 16 มี.ค. 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่าได้เดินทางไปที่โรงเรียนชุมชนบ้านหลุมรัง เพื่อสังเกตการณ์การเดินทางมาสอบของเด็กนักเรียนเป็นวันแรก ไปถึงพบนายอุดร ศรีสุข ครูชำนาญการพิเศษ รร.ชุมชนบ้านหลุมรัง กำลังยืนประกาศอธิบายเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้เด็กๆ ที่กำลังเข้าห้องสอบผ่านเครื่องขยายเสียงเพื่อให้เด็กเข้าใจ จะมีเพียงแค่เด็กนักเรียนระดับ ชั้น ป.6 และระดับชั้น ม.3 เท่านั้น ที่ลงมาถ่ายภาพหมู่เอาไว้เป็นที่ระลึก ก่อนที่จะเข้าห้องสอบ

ระหว่างนั้นปรากฏว่า พ.ต.ท.สิงหา วังวงศ์ทอง อดีต รอง ผกก.ป.สภ.สังขละบุรี และนายภูชิต บัวทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 16 ต.หลุมรัง ได้เดินทางมาพบ นายอุดร ศรีสุข ครูชำนาญการพิเศษฯ เพื่อมอบเจลล้างมือให้กับเด็กนักเรียนและคณะครู ที่อยู่ระหว่างคุมสอบก่อนปิดเทอมเป็นเวลา 3 วัน

ทั้งนี้ พ.ต.ท.สิงหา และนายภูชิต ร่วมกันเปิดเผยว่า จากสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังระบาดไปทั่วประเทศและทั่วโลก เป็นเหตุทำให้หน้ากากอนามัยรวมทั้งเจลล้างมือเริ่มขาดแคลน ซึ่งกลุ่มบริษัท น้ำตาลไทยเอทานอล จำกัด ได้เล็งเห็นความสำคัญและเป็นห่วงเด็กนักเรียนและคณะครูโรงเรียนชุมชนบ้านหลุมรังเป็นอย่างมาก

กลุ่มบริษัทดังกล่าวจึงได้ดำเนินการผลิตเจลเพื่อฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ขึ้น เพื่อนำมาแจกจ่ายให้กับทางโรงเรียนฟรี จนกว่าจะปิดเทอม โดยนอกจากนี้กลุ่มบริษทฯ ดังกล่าว ยังได้มอบหมายให้ตนทั้ง 2 เป็นตัวแทนนำเจล ไปมอบให้กับนายอำเภอบ่อพลอยอีกด้วย สำหรับเจลที่ผลิตขึ้นในครั้งนี้ จะไม่มีการนำไปจำหน่ายเพื่อหารายได้แต่อย่างใด แต่เป็นการผลิตขึ้นมาเพื่อนำไปแจกฟรีเท่านั้น

ด้าน นายอุดร ศรีสุข ครูชำนาญการพิเศษ รร.ชุมชนบ้านหลุมรัง กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับปัญหาไวรัสโควิด-19 ซึ่งประกฎว่า น.ส.วรรณา อายุ 37 ปี ชาวตำบลช่องด่าน ซึ่งเป็นบุคคลที่อ้างตัวว่ามาจากประเทศเกาหลีใต้ เป็นการโกหกเพื่อความอยากดังเท่านั้น และล่าสุดทางโรงเรียนทราบว่า วันนี้ (16 มี.ค.) น.ส.วรรณา ได้กักตัวเองที่บ้านครบ 14 วันพอดี และระหว่างกักตัว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอบ่อพลอย ได้ตรวจสุขภาพทุกวัน โดยไม่พบว่า น.ส.วรรณา มีอาการไข้แม้แต่ครั้งเดียว

แต่อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ประชาชนชาวอำเภอบ่อพลอยรวมทั้งผู้ปกครองของเด็กนักเรียน ต่างก็เข้าใจทั้งหมดแล้ว และวันนี้ต้องขอขอบคุณ พ.ต.ท.สิงหา และนายภูชิต รวมทั้งกลุ่มบริษัท น้ำตาลไทยเอทานอล จำกัด ที่เล็งเห็นความสำคัญถึงสุขภาพของเด็กนักเรียนและคณะครู ด้วยการผลิตเจลล้างมือมามอบให้กับทางโรงเรียนใช้ฟรี จนกว่าจะสอบเสร็จ

ส่วนที่อำเภอสังขละบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณ รพ.สต.บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี นายปกรณ์ กรรณวัลลี นอภ.สังขละบุรี เป็นประธานเปิดมหกรรมรณรงค์เฝ้าระวัง ป้องกันโรคติดต่ออุบัติใหม่อุบัติซ้ำแบบบูรณาการ 2 ประเทศ ไทย-เมียนมา  ภายหลังจากเกิดการแพร่ระบาดใหญ่ไปทั่วโลกของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( โควิด-19)

โดยมี นายศุภกร สุขประสิทธิ์ สาธารณสุข อำเภอสังขละบุรี หัวหน้าส่วยราชการอำเภอสังขละบุรี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชนในอำเภอพญาตองซู สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา องค์กรเอกชน NGO ผู้ประกอบการโรงงาน กลุ่มแรงงานชาวเมียนมา ประชาชน จิตอาสา อสม. กว่า 400 คน ร่วมกิจกรรม

โดยภาพในงานมีการให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย และการล้างมืออย่างถูกวิธี แก่ผู้เข้าร่วมงานและแรงงานชาวเมียนมา เพื่อให้ปลอดภัยจากโรคติดต่อและโควิด-19  นอกจากนั้นยังมีการให้ความรู้เรื่องการป้องกันโรคโควิด-19 โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของประเทศเมียนมา รวมทั้งการบริการเอกซเรย์ปอด เพื่อคัดกรองวัณโรค โดยได้รับความร่วมมือจาก สนง.ตร.แห่งชาติ นำรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ รพ.ตำรวจ มาให้บริการ คัดกรองผู้ป่วยวัณโรค เพื่อดำเนินการคัดกรองและติดตามให้การรัษาในขั้นตอนต่อไป

ทั้งนี้ในพื้นที่ โดยก่อนเข้าร่วมกิจกรรมเจ้าหน้าที่ประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างพรหมแดนสังขละบุรีได้นำเครื่องเทอร์โมสแกน มาตรวจจับอุณหภูมิของผู้เข้าร่วมงานทุกคน เพื่อความปลอดภัย

สำหรับในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ มีสถานประกอบการและโรงงานกว่า 52 โรง โดยทุกวันจะมีแรงงานชาวเมียน มากว่า 3,800 คน เดินทางข้ามแดนเข้ามาทำงานในพื้นที่ จึงมีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในพื้นที่ แม้ปัจจุบันยังไม่พบผู้ป่วยด้วยเชื้อไวรัสโรโรนา 2019 ในพื้นที่กิ่ง อ.พญาตองซู ประเทศเมียนมา ก็ตาม

ขณะที่มีข้อมูลว่าในพื้นที่ อ.สังขละบุรี มีผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องคอยเฝ้าติดตามอาการอยู่จำนวน 1 คน

ทั้งนีจากข้อมูลล่าสุด (15 มีนาคม 2563) มีรายงานผู้ป่วยยืนยันทั่วโลก 114 ประเทศ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 157,456 ราย มีอาการรุนแรง 5,649 ราย เสียชีวิต 5,845 ราย สำหรับประเทศไทย ที่ปัจจุบันพบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง 5,649 ราย พบผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันติดเชื้อยืนยันสะสม 114 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย