ศรีสะเกษ เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูฯ รวมพลังครูร้องคืนอำนาจการบริหารงานบุคคล
19 มี.ค. 2563, 16:50
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ห้องประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายวิสัย เขตสกุล เลขาธิการ ส.ค.ท. เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ห้องประชุมสำนักงาน สกสค.เชียงใหม่ ตนได้ไปประชุมร่วมกับองค์กรวิชาชีพครูและเครือข่ายฯ ประกอบด้วย สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) สหพันธ์ครูภาคเหนือ ชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชมรมครูภาคกลาง สมาพันธ์ครูภาคใต้ สมาคมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย ชมรมข้าราชการบำเหน็จบำนาญแห่งประเทศไทย ชมรมเครือข่ายพิทักษ์กองทุน ช.พ.ค. ชมรมศึกษานิเทศก์ สพฐ.แห่งประเทศไทย ชมรมบุคลากร 38 ค (2) สพฐ.แห่งประเทศไทย และชมรมเครือข่ายโรงเรียนขนาดเล็กแห่งประเทศไทย มติที่ประชุมได้มีข้อสรุปร่วมกันดังนี้ 1. มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบ (ร่าง) พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/60 เรื่อง การปฎิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ....ฉบับ ของคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร 2. กรณีมีข้อสังเกตในเนื้อหาของกฎหมายฉบับนี้ จะเสนอให้มีการแก้ไขในชั้นคณะกรรมาธิการวาระที่ 2 ขั้นแปรญัตติในสภาผู้แทน โดยจะมีผู้แทนที่เข้าประชุมครั้งนี้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมาธิการ 3. มอบหมายภารกิจให้องค์กรเครือข่ายทุกระดับ ผู้นำครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา และบุคลากรทางการศึกษา ทั้งในประจำการและนอกประจำการ นำร่างกฎหมายฉบับนี้ไปขอรับการสนับสนุนจาก ส.ส./ส.ว.ทุกคน ครอบคลุมทุกเขตเลือกตั้งทั้ง 77 จังหวัด ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จ ก่อนวันที่ 22 พ.ค.63 ซึ่งมติการประชุมที่สำคัญในครั้งนี้คือ การรวมพลังของผู้นำครูทุกองค์กร ได้ร่วมกับผู้แทนฝ่ายนิติบัญญัติคือ ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร และรองประธานกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา เป็นการแสวงหาทางออกของปัญหาการศึกษาของชาติร่วมกันอย่างแท้จริงในแนวทางสันติวิธี มิได้มีการครอบงำหรือเป็นเรื่องทางการเมืองแต่อย่างใด เป้าหมายหลักร่วมกันมีเพียงประการเดียวคือ “คืนอำนาจการบริหารงานบุคคลให้เขตพื้นที่การศึกษา” เพื่อเป็นไปตามหลักการกระจายอำนาจ การมีส่วนร่วมและการตรวจสอบความโปร่งใสตามกฎหมายและเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลสากลอย่างแท้จริง
เลขาธิการ ส.ค.ท. ยังเปิดเผยต่อไปว่า เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มีการแพร่ระบาดในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) ได้ตระหนักถึงความปลอดภัยและความห่วงใยในชีวิตของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน นักศึกษา ที่จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดดังกล่าว ด้วยเหตุนี้ สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) และองค์กรเครือข่ายทุกองค์กรฯ ขอประกาศแถลงการณ์เพื่อร่วมกับภาคประชาสังคม นักวิชาการ นักการเมือง นิสิต นักศึกษา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน และทุกภาคีเครือข่ายฯ ให้มีมาตรการดังนี้ 1. สนับสนุนประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ ให้สถานศึกษาในสังกัดและกำกับของกระทรวงศึกษาธิการปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษ 2. หลีกเลี่ยงการเข้าไปตลาดค้าสัตว์มีชีวิต การสัมผัส หรืออยู่ใกล้ชิดสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่ป่วยหรือตาย และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่ไม่สุกดี 3. หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์ เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น 4. ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น (เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว) เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดินหายใจสามารถเข้าสู่ร่างกายด้วยการสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ติดเชื้อ 5. กำชับและดูแลลูกหลานงดใช้บริการร้านเกมส์ ร้านอินเตอร์เน็ต และเข้าดูหนังที่โรงภาพยนตร์ 6. ถ้าหากมีอาการไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที พร้อมแจ้งประวัติการเจ็บป่วย 7. ขอให้ผู้ปกครองทุกท่านมั่นใจในตัวครูที่มีความรักเมตตาต่อลูกศิษย์ที่จะร่วมกันฝ่าวิกฤตโรคนี้ไปได้อย่างปลอดภัยแน่นอน ขอให้ร่วมมือกัน ในช่วงปิดภาคเรียนดูแลร่วมกัน