ผู้สื่อข่าว จ.สกลนคร ใช้ไม้ไผ่ผูกไมค์สัมภาษณ์ผู้ถูกกักตัว 14 วัน เฝ้าระวังโควิด-19
31 มี.ค. 2563, 15:27
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บ้านคำข่า ต.ไร่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร นายสุวิชาญ ไชยโกมล นายอำเภอพรรณนานิคม พร้อมด้วย ผญบ.คำข่า อสม. และ จนท.จาก โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลไร่ นำผู้สื่อข่าวไปเยี่ยมและสัมภาษณ์ผู้ที่ถูกกักตัว 14 วัน ป้องกันโควิด-19 ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งในการกักตัวก็มี อสม. และ จนท.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ดูแลเป็นอย่างดี ซึ่งก่อนสัมภาษณ์ นักข่าวต้องใช้ไมค์ผูกติดกับไม้ไผ่ ความยาว 4-5 เมตร ก่อนที่จะฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ เพื่อความปลอดภัย ไม่เว้นแม้แต่ คุณสุวิชาญ ไชยโกมล นายอำเภอพรรณานิคม
โดยรายแรกสัมภาษณ์ คุณอุทิศ วงศ์พรม อายุ 64 ปี บ้านเลขที่ 174 หมู่ 14 ต.ไร่ ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกกักตัวตามมาตรการ และยินดีที่จะให้บันทึกภาพพร้อมให้สัมภาษณ์ กล่าวว่า ตนเดินทางไปที่ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงจึงต้องเข้ารับการกักตัวเฝ้าระวังดูอาการ 14 วัน โดยอยู่บ้านคนเดียว ครอบครัวไปอยู่ที่อื่น ขณะนี้จะครบกำหนดวันที่ 5 เมษายน นี้ ซึ่งระหว่างเป็นผู้ถูกกักตัวไม่มีอาการไข้ มี จนท.มาดูแลเป็นอย่างดี ฉะนั้น จึงฝากไปถึงผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ว่า ไม่ต้องกลัวการกักตัวให้ทำใจสบาย ยกตัวอย่างทีมหมูป่าอะคาเดมี ตอนอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ถึง 17 วันก็ยังอยู่ได้ แม้ว่าจะอยู่ในความมืด แต่ท่านอยู่แบบสบายๆ มีทุกอย่าง ดังนั้นหากจะเข้ามาในพื้นที่ต้องเข้าสู่ระบบการป้องกัน พร้อมรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อความปลอดภัยของญาติพี่น้อง
น.ส.ไพรินทร์ จิกจักร อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 122 ม.14 ต.ไร่ ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่ถูกกักตัว บอกว่า ตนเดินทางมาจาก จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2563 ซึ่ง จ.ภูเก็ต ก็เป็นพื้นที่เสี่ยงอีกจังหวัดหนึ่ง โดยก่อนที่จะเดินทางมาก็แจ้งให้ญาติ และแจ้งแก่ผู้ใหญ่บ้าน ก่อนที่ อสม. และเจ้าหน้าที่ รพ.สต.จะเข้ามาเตรียมสถานที่กักตัว โดยแยกออกจากบ้านและมีแนวเขตกั้นไว้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีป้ายปิดประกาศไว้ที่หน้าบ้านว่าบ้านหลังนี้มีผู้ถูกกักตัวตามมาตรการ ซึ่งตนจะพ้นจากการกักตัว วันที่ 3 เมษายน นี้ ด้าน นางสุภาพ จองกัลยา จนท.จาก รพ.สต.ไร่ กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดสกลนคร ได้ประกาศห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 16 เมษายน 2562 หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท