ศรีสะเกษโควิด-19 ยอดพุ่ง ติดเชื้อ 8 ราย จ่อห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
1 เม.ย. 2563, 15:29
เมื่อวันที่ 1 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19)จังหวัดศรีสะเกษ ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย รอง ผวจ.ศรีสะเกษ ได้แก่ นายธงชัย เจริญพานิชย์กุล นายสำรวย เกตุกุล และนายสมชัย คล้ายทับทิม พร้อมด้วย นพ.วราวุธ ชื่นตา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ และหัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันประชุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ล่าสุดในวันนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มเติมอีก 2 ราย จากเดิมที่พบผู้ติดเชื้อแล้ว 6 ราย รวมขณะนี้พบผู้ติดเชื้อในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษแล้วรวมทั้งหมด 8 รายด้วยกัน
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า วันนี้ จ.ศรีสะเกษ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (COVID-19) เพิ่มอีก 2 ราย รวมยอดสะสมเป็น 8 ราย รายที่ 7 เป็นชาย ส่วนรายที่ 8 เป็นหญิง รักษาหายกลับบ้านแล้ว 1 ราย ยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ 7 ราย ทั้ง 7 รายอาการดีขึ้นตามลำดับไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง อยู่ในภาวะดูแลได้ และถ้าผู้ป่วยอาการดีขึ้นก็จะให้กลับไปรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลต้นทางคือโรงพยาบาลอำเภอ เพื่อที่จะให้โรงพยาบาลจังหวัดสามารถที่จะรองรับผู้ป่วยที่ต้องเข้ามารักษาใหม่ได้ ตนได้ให้นโยบายกับเจ้าหน้าที่ว่า ถ้าสงสัยว่า บุคคลนี้มีแนวโน้มว่าจะติดเชื้อก็ให้รีบตรวจเลย เมื่อตรวจแล้วได้รับผลยืนยันจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์แล้วก็จะให้ประกาศเลย เพื่อทีมสอบสวนโรคจะได้ลงไปกักกันพื้นที่ เคสต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งที่ผ่านมา เรารีบดำเนินการก็ทำให้สามารถรู้เส้นทางการเดินทางของผู้ป่วยติดเชื้อ ทำให้รู้กลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วยรายที่ 7 มีภรรยาทำงานอยู่สถานบริการ ไปตรวจก็พบว่าติดเชื้อจึงโทรศัพท์แจ้งให้สามีทราบ สามีก็จึงรีบไปตรวจก็พบว่าติดเชื้อด้วย สรุปแล้วก็เป็นการติดเชื้อมาจากที่อื่นทั้งสิ้น และผู้ที่ใกล้ชิดผู้ป่วยทุกรายก็ได้เข้าสู่กระบวนการกักกันอย่างเข้มข้น ส่วนการจะมีการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือไม่อย่างไรนั้น ตนกำลังให้ทีมกฎหมายประเมินอยู่ ซึ่งการดื่มเหล้าเบียร์ก็จะเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ และเวลาดื่มก็จะมีการตั้งวงดื่มกันหลายคนซึ่งอาจจะเป็นจุดเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อได้เหมือนกัน