"ผู้ว่าฯภูเก็ต" สั่งปิดพื้นที่ "ตำบลกะทู้" เป็นแห่งที่ 4 ห้ามบุคคลเข้า-ออก
7 เม.ย. 2563, 13:54
วันที่ 7 เม.ย. 63 ผู้สื่อข่าว ONB newsราย งานว่า จังหวัดภูเก็ตได้มีการออกคำสั่งปิดเพิ่มในพื้นที่ ตำบลกะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตเพิ่มเติม อีก 1 พื้นที่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีคำสั่งปิดพื้นที่ ไปแล้ว 3 แห่ง ได้แก่ ตำบลป่าตอง อ.กะทู้ ตำบลกะรน อ.เมืองภูเก็ต และ พื้นที่ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด 19 ซึ่งในคำสั่งดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้
โดยที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด19 ในปัจจุบันได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและกว้างขวางออกไปหลายประเทศทั่วโลก โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง ชื่อและอาการของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ2563 กำหนดให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือโควิด 19 เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีจึงได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ฉบับลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 เกี่ยวกับโรคดังกล่าวและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด 19 และจากการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในจังหวัดภูเก็ต พบว่ายังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับเทศบาลตำบลราไวย์มีหนังสือเสนอมาตรการแนวทางแก้ไข ปัญหาดังกล่าว ตามหนังสือเทศบาลตำบลกะรน ที่ ภก.52801/470 ลงวันที่ 3 เมษายน 2563
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 มาตรา 34(7) และมาตรา 35 (1)(2)(3 )แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และข้อ 7 (1) ประกอบข้อ 1 ข้อ 7 ข้อ 11 และข้อ 13 ของข้อกำหนอออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558 (ฉบับที่ 1 ) ลงวันที่ ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 17 / 2563 เมื่อวันที่ 6เมษายน 2563 จึงออกคำสั่งไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 เนื่องจากพื้นที่ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพื่อป้องกันไม่ให้โรคนั้นแพร่โดยทางตรงหรือทางอ้อมไปยังผู้อื่นจึงห้ามประชาชนเข้าไปหรือออกจากพื้นที่ดังกล่าว เว้นแต่ยานพาหนะสำหรับการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคแก๊สหุงต้มน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องมือแพทย์ ยานพาหนะกู้ชีพ กู้ภัย รถพยาบาล รถฉุกเฉินทางการแพทย์ รถที่ใช้สำหรับภารกิจของทางราชการ รถขนส่งพัสดุและสิ่งพิมพ์ ทั้งนี้ผู้ได้รับอนุญาตยกเว้นหรือผ่อนผันต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อโดยเคร่งครัด
ข้อ 2 กำหนดจุดตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ตามแผนที่แนบท้ายคำสั่งดังนี้
(1)จุดตรวจคัดกรองบริเวณรอยต่อตำบลกะทู้ – ตำบลรัษฎา ตั้งอยู่ ณ ถนนพระภูเก็จแก้ว ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้
(2)จุดตรวจคัดกรองบริเวณรอยต่อตำบลกะทู้ – ตำบลวิชิต ตั้งอยู่ ณ ถนนวิชิตสงคราม ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้
(3)จุดตรวจคัดกรองบริเวณรอยต่อตำบลกะทู้ – ตำบลวิชิต ตั้งอยู่ ณ ถนนเหมืองเจ้าฟ้า ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้
(4)จุดตรวจคัดกรองบริเวณรอยต่อตำบลกะทู้ – ตำบลเกาะแก้วตั้งอยู่ ณ ถนนกะทู้-นาเกาะ ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้
โดยมอบหมายให้นายอำเภอกะทู้ สถานีตำรวจภูธรกะทู้ และเทศบาลเมืองกะทู้ จัดประกอบกำลังเป็นชุดปฏิบัติการประจำจุดตรวจคัดกรองดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ให้นายอำเภอหรือปลัดอำเภอที่นายอำเภอมอบหมายในพื้นที่เป็นหัวหน้าชุดปฎิบัติการประจำจุดตรวจคัดกรองดังกล่าว และผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรกระทู้หรือผู้ที่ผู้กำกับมอบหมายให้เป็นรองหัวหน้าชุดปฏิบัติการประจำจุดตรวจคัดกรองดังกล่าว
ข้อ 3 ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อพิจารณาตรวจคัดกรองบุคคลที่ผ่านจุดตรวจคัดกรองตามข้อสองเพื่อป้องกันและควบคุมโรคตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ. 2558 และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 (ฉบับที่1 )ลงวันที่ 25 มีนาคมพ.ศ. 2563
ข้อ 4 มาตรการป้องกันและควบคุมการแพทยระบาดของโรคเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังต่อไปนี้
(1)ให้สำนักงานสาระสุขจังหวัดภูเก็ตร่วมกับอำเภอกะทู้และเทศบาลเมืองกะทู้จัดบุคคลเข้าไปตรวจวัดไข้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ตำบลกะทู้ทุกคน หากพบผู้ใดมีอาการซึ่งเข้าข่ายต้องเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะต้องถูกส่งไปแยกกับกักกันหรือคุมไว้สังเกตอาการยังสถานที่ที่จังหวัดกำหนด
(2)ให้เทศบาลเมืองกระทู้ทำความสะอาดสถานที่สาธารณะถนนบ้านพักอาศัยร้านค้าในเขตพื้นที่ตำบลกะทู้ โดยการฉีดฆ่าเชื้อทั้งหมดทุกหลังคาเรือน
(3)ตามที่จังหวัดได้มีคำสั่งปิดโรงแรมแล้วตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 1797 / 2563 ลงวันที่ 2 เมษายน 2563 หากมีโรงแรมใดในพื้นที่ตำบลกะทู้จำเป็นจะต้องให้พนักงานเข้าไปปฏิบัติงานด้านการบัญชี การซ่อมบำรุงหรืออื่นๆ ให้โรงแรมจัดหาที่พักภายในโรงแรมให้พนักงานจนกว่าจะปฎิบัติหน้าที่แล้วเสร็จ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายพนักงานซึ่งอาจเป็นพาหะในการกระจายของโรค
ข้อ 5 ขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ให้ออกนอกเคหสถานหรือบริเวณสถานที่พำนักของตน เพื่อป้องกันตนเองจากการรับเชื้อและอาจเป็นพาหะในการกระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปยังบุคคลอื่นอีก
อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือจะกระทบต่อประโยชน์สาธารณะจึงไม่อาจให้ใช้สิทธิ์โต้แย้งได้ตามความมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองพ.ศ. 2539
หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้อาจจะเป็นความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ. 2558 ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับและอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 (ฉบับที่หนึ่ง)
ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง