วันนี้ 11 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานข่าว ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสสะท้อนภาพที่ญาติของแหล่งข่าวรายหนึ่ง ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.ปัตตานี ที่ได้เดินทางไปเป็นลูกจ้างร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในรัฐยะโฮห์บารู ประเทศมาเลเซีย ได้ส่งวีดีโอที่บันทึกด้วยโทรศัพท์มือถือมาให้เผยแพร่ เพื่อขอให้ทางการไทยเร่งช่วยเหลือกลุ่มคนไทยที่ตกค้างอยู่ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งคนไทยกลุ่มนี้ต้องเผชิญชะตากรรมด้วยกัน จำนวน 20 คน ที่ทางเจ้าของผู้ประกอบการได้จัดให้ไปพักอาศัยอยู่รวมกันที่แฟลต 5 ชั้น ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากร้านอาหารมากนัก

โดยภาพที่สะท้อนให้เห็นเป็นภาพที่แรงงานไทยกลุ่มนี้ ได้แยกย้ายกันนั่งรับประทานอาหารที่บริเวณทางเดินของห้องพัก ซึ่งถือว่าเป็นอาหารที่เลิศรสและซ้ำซากที่รับประทานมาเป็นเวลา 1 เดือนแล้ว หลังจากที่เดินเรื่องกับทางสถานกงสุล เพื่อขออนุญาตเดินทางกลับประเทศไทยแต่เดินทางกลับไม่ทัน คือ ข้าวเปล่ากับต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือไม่ก็ข้าวเปล่ากับไข่เจียว ที่ต้องแบ่งกันรับประทานเพื่อปะทังชีวิต ที่ทางเจ้าหน้าที่รัฐยะโฮห์บารู ได้ตระเวนนำมาแจกจ่ายให้รับประทานประทังชีวิต 3 วัน ต่อ 1 ครั้ง อาทิ ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและปลากระป๋อง หลังจากที่ทางการประเทศมาเลเซีย ใช้กฎเหล็กประกาศปิดประเทศโดยไม่อนุญาตให้ประชาชนออกจากบ้านตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ซึ่งหากฝ่าฝืนจะถูกจับนำไปเปรียบเทียบปรับคนละ 10,000 ริงกิต เทียบเป็นเงินไทย ประมาณ 8,000 บาท

 

 

 

ส่วนแรงงานไทยที่รับประทานอาหารแล้วเสร็จ ก็ได้แยกย้ายกันนอนเล่นโทรศัพท์ อาทิ ฟังเพลง เล่นเกมส์ บ้างก็พูดคุยปรับทุกข์กับเครือญาติที่อาศัยอยู่ฝั่งประเทศไทย เพื่อฆ่าเวลาให้หมดไปวันๆ ซึ่งทุกคนต่างคิดว่าอยู่ในประเทศมาเลเซียในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ ก็เหมือนกับติดคุกหรือถูกกักตัวอยู่แล้ว จึงต้องการให้ทางการไทยให้การช่วยเหลือกลับประเทศไทยโดยเร็ว พวกแรงงานไทยกลุ่มนี้ก็ยินดีถูกกักตัวซึ่งมันไม่แตกต่างกัน กับที่ต้องอาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซียแบบอดๆอยากๆ

นอกจากนี้แรงงานไทยกลุ่มนี้ยังทราบข่าวสารของทางการประเทศมาเลเซีย อีกด้วยว่า ขณะนี้ประเทศมาเลเซียใช้กฏเหล็กประกาศปิดประเทศละลอกที่ 3 เพิ่มเติมอีก 14 วัน จนถึงวันที่ 28 เม.ย. 63 ก็เป็นการซ้ำเติมให้พวกแรงงานไทยกลุ่มนี้และแรงงานไทยที่ตกค้างอยู่ในรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซียอีกเป็นจำนวนมาก ต้องเผชิญกับความอดอยากที่ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่แรงงานไทยที่ตกค้างในประเทศมาเลเซีย โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังมีเงินเก็บสะสม ได้แอบว่าจ้างชาวมาเลเซียเหมารถยนต์ลัดเลาะไปตามเส้นทาง ที่ปลอดเจ้าหน้าที่ประเทศมาเลเซียตั้งจุดตรวจ แอบข้ามแดนเข้าประเทศไทยตามช่องทางข้ามธรรมชาติ ซึ่งถูกจับเปรียบเทียบปรับคนละ 800 บาท ก่อนที่จะถูกนำไปกักตัว ก็ถือว่ายังดีกว่าอยู่ในประเทศมาเลเซีย