จากกรณีที่นายยุทธนา ซ้ายซา หรือด่อน อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 6 บ้านยางคำ ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ถูกชายสวมชุดลายพรางจำนวนกว่า 10 คน บุกไปอุ้มจากเถียงนาในสวนยางพาราท้ายหมู่บ้าน สอบสวนเค้นหาความจริง พร้อมกับน้องชายชื่อนายนัตพงศ์ ซ้ายซา หรือแดง อายุ  29 ปี ในฐานปฏิบัติการชั่วคราว ภายในบริเวณวัดกัณตะศิลาวาส ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม โดยกล่าวหาว่าพี่น้องคู่นี้ มีพฤติกรรมลักลอบขายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) แต่ผลการตรวจค้นไม่พบยาเสพติด ซึ่งสองพี่น้องยอมรับว่าเสพจริง แต่ไม่ใช่ผู้ค้าตามที่กลุ่มชายดังกล่าวกล่าวหา จากนั้นก็โดนแยกไปกระทืบ กระทั่งนายยุทธนาหรือด่อนเสียชีวิต ส่วนนายนัตพงศ์บาดเจ็บสาหัส ถูกคอมแบทรุมยำจนซี่โครงขวาหัก 2 ซีก มีเลือกคั่งอยู่ในช่องท้อง ขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม โดยศพของนายด่อนถูกนำไปผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 17 เมษายน 2563  ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุด วันที่ 20 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายนิวัฒน์ ซ้ายซา อายุ 59 ปี พ่อของนายด่อนว่า ผลการชันสูตรศพออกมาแล้ว แพทย์พบที่รอยบาดเจ็บที่สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก และปอดเขียวช้ำ ในกระเพาะอาหารไม่พบยาเสพติดตามที่คู่กรณีกล่าวอ้างว่าผู้ตายกลืนยาเสพติด(ยาบ้า)ลงไป หลังจากนั้นก็นำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ดังกล่าว

นายนิวัฒน์กล่าวต่อว่า เรื่องฌาปนกิจศพยังไม่ได้กำหนดวัน เพราะต้องรอผู้ที่แสดงตนจะรับผิดชอบต่อผลการกระทำให้เรียบร้อยก่อน ส่วนทางด้านคดีก็ต้องเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สภ.ธาตุพนม เรื่องการนำเงินมาช่วยเหลือเยียวยา บอกเลยว่าต่อให้คู่กรณีให้มาสัก 10 ล้านบาท ก็ไม่คุ้มกับสิ่งที่ตนต้องสูญเสียไป ถึงขณะนี้ก็ยังทำใจไม่ได้ หลับตาลงครั้งใดมีแต่หน้าของลูกชายลอยมาเสมอ

ส่วนนางป่าน ซ้ายซา อายุ 56 ปี แม่ของผู้ตาย กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากให้กลุ่มทหารของศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายเเดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ตอนบน) หรือ ศอ.ปส.ชอน.(บ) ที่ตั้งฐานชั่วคราวอยู่ในวัด ที่รุมทำร้ายร่างกายลูกชายจนตายมาขอขมาศพ

ด้าน ร.ต.อ.ธีระพงษ์ ท่าโทม พนักงานสอบสวน สภ.ธาตุพนม หลังทราบผลรายงานของแพทย์ผู้ผ่าชัสูตรศพนายยุทธนาหรือด่อนแล้ว ก็จะเชิญผู้ถูกกล่าวหามารับทราบขอกล่าวหา คือ 1.ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่งความตาย และ 2.ร่วมกันทำร้ายผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายบาดเจ็บสาหัส