วันที่ 23 เม.ย. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานข่าว ความเคลื่อนไหวกรณีคนไทยที่ตกค้างอยู่ในรัฐต่างๆ ของประเทศมาเลเซีย ทั้งได้รับอนุญาตผ่านสถานทูตและสถานกงสุล รวมทั้งไม่ผ่านการขออนุญาตอีกทั้งกลุ่มไม่มีเอกสารหลักฐานหนังสือเดินทางใดๆ ก็ยังคงเดินทางผ่านพรมแดนสุไหงโก-ลก และลักลอบข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ซึ่งถือว่าใกล้จะเข้าเทศกาลถือศีลอด หรือ เดือนรอมฎอน ของพี่น้องชาวไทยมุสลิม

โดยในวันนี้ตั้งแต่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก เปิดทำการเวลา 07.00 น. คนไทยที่ตกค้างอยู่ในรัฐต่างๆ ของประเทศมาเลเซีย ที่ได้ขออนุญาตผ่านสถานทูตและสถานกงสุล ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาและถูกนำเข้ากระบวนการคัดกรองโรคและเช็คประวัติ จำนวน 56 คน ส่วนกลุ่มบุคคลที่ไม่ได้ขออนุญาตผ่านสถานทูตและสถานกงสุล และกลุ่มที่ไม่มีหลักฐานหนังสือเอกสารใดๆ มีการลักลอบผ่านช่องทางธรรมริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก จำนวน 53 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารกรมทหารพรานที่48 และชุดควบคุมป้องกันชายแดนที่ 3 ได้จับกุมตัว นำส่งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก เพื่อขอสู่กระบวนการคัดกรองและเช็คประวัติ พร้อมทั้งได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก ทำการเปรียบเทียบปรับคนละ 800 บาท ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะคัดแยกเพื่อส่งไปกักตัวตามภูมิลำเนาที่อาศัยอยู่ของแต่ละคน

 

 

 

ส่วนกรณีคนไทยซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.นราธิวาส และนอกเหนือจาก จ.ยะลา จ.ปัตตานี และ จ.สงขลา ที่มีความประสงค์เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา โดยเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงที่มีจิตสำนึกในการแสดงตัวตน รวมทั้งถูกส่งตัวหลังจากเดินทางกลับมาจากพื้นที่ กรุงเทพมหานคร อินโดนีเซีย ปากีสถานและมาเลเซีย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กักตัวเพื่อดูอาการ 14 วัน ตามสถานที่ที่ทางจังหวัดนราธิวาส ได้จัดเตรียมไว้รองรับนั้น มีจำนวน 690 คน ทยอยกลับบ้านแล้ว 202 คน เหลืออีก 488 คน ก็อยู่ในระยะทยอยกลับบ้านหากไม่พบอาการติดเชื้อ โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งสารคัดหลั่งตรวจทางห้องปฏิบัติการพบติดเชื้อสะสม 33 ราย รักษาหาย 22 ราย และนอนรักษาตัว 10 ราย โดยแยกรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ 5 ราย โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ 3 ราย และโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก 2 ราย ซึ่งที่ผ่านมามีชาวนราธิวาสเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 1 ราย