วันที่ 24 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ด่านพรมแดนเบตง จ.ยะลา แรงงานไทยต้มยำกุ้งจากประเทศมาเลเซียเดินทางกลับเข้าประเทศไทย โดยทยอยเดินทางเข้ามาตั้งแต่เวลา 08.30 น. โดยในส่วนของด่านพรมแดนเบตง ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ด่านชายแดนใต้ ที่เปิดรับแรงงานไทยเดินทางกลับ โดยได้จำกัดจำนวนไม่เกิน 50 คนต่อวัน ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนขอรับหนังสือรับรองการเดินทางกลับประเทศไทยผ่านทางด่านเบตง ในวันที่ 24 เม.ย.63 มียอดแจ้งเข้ามาจำนวน 46 คน ทยอยเดินทางเข้ามาแล้วจำนวน 23 คน โดยแรงงานไทยที่เป็นมุสลิมเดินทางกลับเพื่อมาร่วมถือศีลอดในเดือนรอมฎอนเดือนอันประเสริฐขอพี่น้องชาวมุสลิมซึ่งวันนี้เป็นวันแรกในการถือศีลอดด้วย

โดยแรงงานกลุ่มแรกที่เดินทางมาที่เป็นคนไทยที่เดินทางมาถึง นายเกิด ขันน้อย เป็นชาวจังหวัดบึงกาฬ  เปิดเผยว่า ด้วยความดีใจหลังจากที่ได้คิวเดินทางกลับไทยและได้เดินทางกลับประเทศไทย เมื่อมาถึงแผ่นดินไทยจะขอกราบแผ่นดินไทยก่อน ซึ่งตนรู้สึกดีใจมากที่ได้กลับแผ่นดินเกิด ซึ่งในบางรายยอมรับว่า กว่าจะได้เดินทางกลับต้องไปลงทะเบียนที่สถานกงศุลใหญ่ เพื่อนัดหมายวันเดินทางกลับ บางรายบอกว่า ค่อนข้างเสียเวลานิดหน่อย เนื่องจากเว็บล่มบ่อย แต่ก็รู้สึกดีใจที่ได้กลับ และขอขอบคุณกุงสุลไทยในมาเลเซียที่อำนวยความสะดวกทุกอย่าง รวมทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของมาเลเซียเขาก็เอาใจใส่คนไทยเหมือนกัน และให้การช่วยเหลือในด้านเอกสาร โดยประสานกับเจ้าหน้าที่กงสุลไทย จนได้เวลานัดหมาย ของทางการมาเลเซียซึ่งรอประมาณ 5 วัน ก็ได้กำหนดวันเดินทางกลับไทยโดยมาขึ้นรถบัสที่ทางการมาเลเซียเตรียมไว้ที่หน้าโรงพักเมืองอีโปร์  รัฐเปรัค ห่างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปทางทิศเหนือราว 200 กม. อยู่ระหว่างกัวลาลัมเปอร์และปีนัง ซึ่งตนเองเดินทางเข้ามากับแม่ชี จากจังหวัดบึงกาฬ เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาเพื่อมาเยี่ยมพระที่วัดถ้ำเปรัค อยู่ได้ เกือบ 2 เดือน ก็มีโรคโควิด-19 ระบาดจนทางการมาเลเซียต้องปิดเมือง ตนเองและแม่ชีที่เดินทางมาพยายามติดต่อเพื่อเดินทางกลับจนได้กลับมาในวันนี้

 ทั้งนี้ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง แรงงานไทยทุกคนจะต้องนำสัมภาระให้เจ้าหน้าที่ทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ ก่อนเดินเท้าไปยังจุดคัดกรอง รอเจ้าหน้าที่เรียกให้เข้าตรวจวัดอุณหภูมิ สอบสวนโรค หากตรวจพบมีไข้สูง เจ้าหน้าที่จึงต้องกันตัวไปคัดแยกต่างหากทันที