วันที่ 4 พฤษภาคม 2563 เวลา 21.30 น. ผู้สื่อข่าวONB newsรายงานที่บริเวณศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นสถานที่จัดไว้รองรับการกลับมาของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครพนมที่เดินทางไปทำงานที่จังหวัดภูเก็ต นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ พร้อมด้วย นายชาตรี จันทร์วีระชัย รอง ผวจ.ฯ นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว ปลัดจังหวัดฯ นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ นายอำเภอเมืองนครพนม นายสามารถ สุวรรณมณี นายอำเภอธาตุพนม นพ.ธราพงษ์ กัปโก รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม(ด้านเวชกรรมป้องกัน) และ นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม เขต 2 พรรคเพื่อไทย ฯลฯ รอต้อนรับการกลับถิ่นสู่มาตุภูมิ หลังเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด– 19 และได้มีการร้องขอที่จะกลับสู่ภูมิลำเนา

โดยทางจังหวัดนครพนมได้มีการประสานงานกับจังหวัดภูเก็ต และจัดรถบัสเพื่อนำคนจังหวัดนครพนม จำนวน 23 ชีวิต เดินทางสู่อ้อมกอดของครอบครัวที่ตั้งตารอคอยการกลับมาอย่างใจจ่อใจจ่อ และเป็นการสร้างมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 

โดยเมื่อรถบัสมาถึงจุดรองรับ ผวจ.นครพนม ได้นำทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ร่วมให้การต้อนรับ และตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางมากับรถบัสหมายเลขทะเบียน 31-4160 ภูเก็ต ซึ่งเป็นรถคันแรกที่ออกมาจากจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2563 เวลา 16.00 น. หลังผ่านกระบวนการตรวจวัดอุณหภูมิแล้ว ทุกคนไม่มีไข้แม้แต่รายเดียว โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้แนะนำการปฏิบัติตัวระหว่างกักตัวเอง ในจุดที่ญาติได้จัดไว้ให้เป็นเวลา 14 วัน ซึ่งก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าไปตรวจสอบสถานที่กักตัวของแต่ละบุคคลแล้ว บางแห่งเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ส่วนบ้านไหนไม่มีที่กักตัว ก็จะมอบให้อำเภอท้องที่นั้นดำเนินการจัดหาที่กักตัวให้ โดยจะมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) เข้าไปตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย วันละ 2 เวลา คือ เช้า-เย็น  โดยในวันที่ 5 พฤษภาคม จะมีชาวจังหวัดนครพนมที่เดินทางออกจากเกาะภูเก็ตเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 4 พฤษภาคม อีก 2 คัน จำนวน 49  คน คาดว่าจะถึงจุดหมายปลายทางในเวลาประมาณ 22.00 น.ของวันเดียวกัน เพราะมีระยะทางไกลถึง 1,700 กม.

นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม เปิดเผยว่าจากข้อมูลมีประชาชนชาวจังหวัดนครพนมได้เดินทางไปทำงานต่างถิ่นเป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อเกิดสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019  ขึ้น ก็ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของทุกคน บางส่วนก็ยังคงมีสภาพปัญหาอยู่บ้าง เช่น ในจังหวัดภูเก็ตที่มีการปิดพื้นที่จังหวัดมาเป็นเวลานาน เพราะฉะนั้นทำให้การทำงาน การสร้างอาชีพสร้างรายได้ ไม่ได้ทำมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และเมื่อจังหวัดภูเก็ตเปิดให้พี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้ สามารถเดินทางออกพื้นที่จังหวัดได้ ก็มีพี่น้องชาวนครพนมและจังหวัดอื่นๆ ที่ทำงานอยู่ที่นี่อยากจะเดินทางกลับภูมิลำเนา

ซึ่งในส่วนของจังหวัดนครพนมการเดินทางค่อนข้างยาก เพราะจะต้องนั่งรถยาวมาก ทั้งการขนส่งไม่ค่อยสะดวกเพราะรถโดยสารหลายๆ สายยังไม่ได้ให้บริการ ดังนั้นเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก อีกทั้งเราจะสามารถดูแลการแพร่ระบาดได้ง่ายกว่า เพราะหากทุกคนเดินทางมาเอง อาจจะมีผลต่อการตรวจคัดกรองและการดูแลที่ครบถ้วนสมบูรณ์ จึงได้ขอความอนุเคราะห์จากจังหวัดภูเก็ตในการประสานข้อมูลและติดต่อพี่น้องชาวนครพนมให้ โดยมีการกำหนดจุดไปรับและมีการคัดกรองในชั้นต้นก่อนออกเดินทาง รวมถึงหลายจังหวัดที่ต้องเดินทางผ่านก็มีการอำนวยความสะดวกให้เช่นเดียวกัน ขณะที่ภาคเอกชนของจังหวัดภูเก็ตเองก็ได้จัดรถบัสแบบไม่คิดกำไร  ทำให้จังหวัดนครพนมมีค่าใช้จ่ายเพียงค่าน้ำมันและค่าอาหารระหว่างทางเท่านั้น

“ในส่วนประชาชนที่เดินทางกลับมาจากภูเก็ตเมื่อกลับมาถึงจังหวัดแล้วจะเข้าสู่กระบวนการคัดกรองอีกครั้งในการตรวจสุขภาพ มีการให้คำแนะนำ รวมทั้งมีการกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งจังหวัดได้มีการลงพื้นที่เตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว ถ้าจะกักตัวอยู่บ้านต้องมีการแยกเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน แต่ถ้าหากไม่มีทางอำเภอก็จะมีพื้นที่ที่จะกักตัวไว้รองรับ ถ้าอำเภอติดขัดในส่วนของจังหวัดก็จะมีสถานที่ไว้รองรับเช่นเดียวกัน ขอให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครมีความสบายใจว่าจังหวัดฯพยายามที่จะดูแลพี่น้องประชาชนทุกส่วนอย่างเป็นระบบ ซึ่งถ้าใครเดินทางมาเองก็มีคำสั่งจังหวัดว่าให้ท่านไปรายงานตัวกับพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่ว่าการอำเภอ หรือติดต่อท่านนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านก็ได้เช่นเดียวกัน” ผวจ.นครพนม กล่าว

จากการที่จังหวัดนครพนม จัดหารถบัสนำประชาชนของตนเองกลับภูมิลำเนา ก็ได้รับคำชื่นชมจากคนภายในจังหวัดนครพนมเอง ตลอดทั้งคนจากจังหวัดอื่นๆ ขณะที่สื่อบนเกาะภูเก็ตก็ตั้งให้เป็น”นครพนมโมเดล” ที่จังหวัดอื่นควรจะนำแบบอย่างไปใช้ เพื่อนำคนของตนกลับคืนมาตุภูมิ