เชื่อว่าหลายคนคงประสบปัญหากลิ่นอับในรถ เพราะจอดไว้นาน ไม่ได้ระบายอากาศ ยิ่งช่วงที่เร่งรีบด้วยแล้ว หลายคนก็ละเลย และมักจะใช้วิธี เปิดกระจกเพื่อไล่กลิ่นอับ แต่วันนี้เรามี 7 วิธีจัดการ  ทำให้แอร์รถเย็นฉ่ำ ไร้กลิ่นอับ วิธีที่ช่างแอร์ไม่ค่อยบอก

1 ต้องปิดสวิตช์ A/C เสีย ก่อนจะสตาร์ทเครื่องทุกครั้ง จะได้ลดการใช้พลังงานของเครื่องยนต์ ถ้าเปิดไว้มันจะฉุดคอมเพรสเซอร์แอร์ได้ ฉะนั้นก็อย่าลืมปิดก่อน

2 หลังจากสตาร์ทรถไปสัก 2 นาที ค่อยเปิดสวิตช์ A/C แต่ว่าอย่าเพิ่งเปิดแอร์ให้เปิดเพียงพัดลมแอร์ก่อนโดยให้เร่งความเร็วรอบสูง ๆ เป็นการไล่ความร้อนในรถ ทำให้ระบบแอร์ระบายความร้อนออกไปจากนั้นค่อยปรับอุณหภูมิแอร์ในรถให้เย็นฉ่ำตามต้องการได้เลย

3 ถ้าอากาศในรถร้อนมากโดยเฉพาะรถที่จอดตากแดด จอดกลางแจ้งนาน ก็ให้เปิดลมเป่าในรถแบบแรงสุดโดยอย่าเปิดสวิตช์ A/C ให้ไล่ลมร้อนไปสัก 5 นาทีค่อยเปิดจะทำให้ความร้อนออกไป จากนั้นก็ค่อยเปิดสวิตช์ A/C และปรับแอร์ตามที่ต้องการได้เลย แบบนี้จะทำให้แอร์รถไม่ทำงานหนักจนเกิดไป และยังช่วยลดกลิ่นอับในรถไปได้อีกด้วย

4 ห้ามเปิดกระจกรถ (หากไม่จำเป็น) เนื่องจากการเปิดกระจกรถบ่อย ๆ จะทำให้ความเย็นในรถออกไปข้างนอก แล้วยังเสี่ยงที่ฝุ่นจากภายนอกจะลอยเข้ามาในรถอีกด้วย พอมีฝุ่นเข้ามาก็อาจจะไปอุดตันในตู้แอร์หรือในแผ่นกรองอากาศแอร์ทำให้ เสื่อมสภาพเร็ว

5 อย่าลืมหมั่นถอดเอาแผ่นกรองอากาศแอร์ออกมาทำความสะอาดด้วย โดยแผ่นกรองจะอยู่ฝั่งข้างคนขับตรงเกะวางของแถว ๆ นั้น หากไม่เคยถอดออกมาเลยนั้นแผ่นกรองอาจจะมีอะไรอุดตันอยู่ทำให้แอร์ไม่ทำงาน หรือทำงานไม่เต็มที่ ลมแอร์เบา ไม่เย็น และแอร์ไม่บริสุทธิ์เพราะฝุ่นเกาะเยอะ

6 น้ำหอมรถห้ามใช้แบบมี “แอลกอฮอล์” เพราะว่ามันจะระเหยแล้วเข้าไปอยู่ในระบบแอร์รถยนต์ได้ ซึ่งพอมันระเหยเข้าไปก็ส่งผลทำให้ตู้แอร์นั้น เสื่อม สภาพรวดเร็ว ผุกร่อน เป็นอันทำให้เราต้องเสียเงินซ่อม

7 ถ้าแอร์เริ่มไม่เย็นอย่าปล่อยไว้แสดงว่ามันไม่ปกติแล้ว ให้ปิดสวิตช์ A/C ก่อน ทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์หยุดทำงาน แต่ว่ายังสามารถเป่าลมในรถออกมาได้ ซึ่งทำแบบนี้จะช่วยลดความเสียหายของคอมเพรสเซอร์ลงได้ จากนั้นรีบน้ำรถไปตรวจสภาพที่อู่หรือศูนย์บริการทันที