วันที่ 19 พฤษภาคม 2563 เวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พันเอก พิทักษ์พล ชูศรี ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 รับแจ้งจากสายสืบว่า จะมีการลักลอบส่งยาเสพติด (ยาบ้า) บริเวณสันเขื่อนปากห้วยบ่อ ริมแม่น้ำโขงรอยต่อพื้นที่ระหว่างบ้านนาข่าท่า อ.ท่าอุเทน – บ้านปากห้วยม่วง อ.บ้านแพง จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 2110 (ร้อย.ทพ.2110) ประสานร่วมกับ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายเเดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (ชุด ชป.พิเศษ 1 ศอ.ปส.ชอน.) และชุดปฏิบัติการพิเศษ 1, 2 หมวดตำรวจตระเวนชายแดน 2371 (ชป.พิเศษ 1,2 ,มว.ตชด.2371) เข้าทำการตรวจสอบริเวณดังกล่าว

พบกับชายวัยรุ่นต้องสงสัย จำนวน  2 คน ทำทีเป็นนั่งเล่นอยู่บนเบาะรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 I ลักษณะท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงขอทำการตรวจค้น ตรวจพบถุงกระสอบปุ๋ยสีเขียว วางอยู่ในพุ่มไม้ข้างรถ จยย. จึงเอาถุงดังกล่าวมาตรวจสอบ พบภายในถุงปุ๋ยเป็นยาเสพติด (ยาบ้า) จึงนำตัวไปตรวจค้นโดยละเอียดที่ ฐานปฏิบัติการร้อย ตชด.237 บ้านนาเพียง ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

 

ผู้ต้องหา 2 คน ทราบต่อมาว่า นายเติ้ง (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี บ้านเลขที่ 112/1 หมู่ 8 บ้านนาข่าท่า ต.พระทาย อ.ท่าอุเทน  และ นายสุรพล  ละกังถา หรืออ้น อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 18 หมู่ 8 บ้านนาข่าท่า ต.พระทาย ตรวจยึดของกลาง 3 รายการ คือยาบ้า จำนวน 16 มัด นับได้เกือบ 40,000 เม็ด โทรศัพท์มือ 2 เครื่อง และรถจักรยานยนต์  จำนวน 1 คัน โดยรับสารภาพว่ามีคนขับเรือจากฝั่งเพื่อนบ้านมาวางถุงยาบ้าไว้ริมแม่น้ำโขง จากนั้นตนทั้งสองมีหน้าที่มาขนไปซ่อนไว้ในป่า เตรียมจะนำยาบ้าส่งให้ผู้ที่จะมารับต่ออีกทอด ได้เงินค่าจ้างคนละ 5,000 บาท ซึ่งผู้ต้องหาอ้างไม่รู้จักกับนายทุนผู้ติดต่อ และเพิ่งทำเป็นครั้งแรก แต่ในทางสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ผู้ต้องหามีประวัติพัวพันขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมมาโดยตลอด เพิ่งสามารถจับกุมได้คาหนังคาเขาครั้งนี้ จากนั้นได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมของกลางทั้งหมดให้กับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป