"สองพี่น้อง" เรียนออนไลน์ผ่านมือถือ เกิดอาการมึนศีรษะ ตาบวม และอาเจียน
21 พ.ค. 2563, 17:08
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ตามที่เริ่มเปิดให้เรียนออนไลน์ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 เป็นวันแรก เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โรคที่ส่งผลกระทบต่อทุกอาชีพ และการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน รวมถึงการเรียนการสอนในโรงเรียนต้องยุติไปชั่วคราวพร้อมกันทั่วประเทศ โดยแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาของภาครัฐ จึงมุ่งไปสู่ “การเรียนผ่านระบบออนไลน์”
โดยการเรียนออนไลน์นี้ รัฐได้เปิดช่องทางการเรียนการสอนทั้งหมด 6 ช่องทาง ได้แก่ 1.ทีวีดิจิทัล ช่อง 40-45 2.ทีวีดาวเทียม Ku-Band (จานทึบ) ช่อง 186-191 3.ทีวีดาวเทียม C-Band (จานโปร่ง) ช่อง 340-345 4.เว็บไซต์ www.dltv.ac.th 5.แอปพลิเคชัน DLTV และ 6.ช่องยูทูบ
ทั้งนี้การเรียนผ่านมือถือ คอมพิวเตอร์หรือโทรทัศน์นั้นปรากฏว่าส่งผลกระทบต่อสุขภาพของนักเรียนสองพี่น้องในระดับชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 5 และปีที่ 6 ในพื้นที่อำเภอสวี จ.ชุมพร โดยมีอาการมึนศีรษะ ตาบวม และถึงขั้นอ้วกอาเจียนผู้ปกครองจึงให้หยุดเรียนผ่านมือถือแต่ให้เรียนทางโทรทัศน์แทนพร้อมทั้งรอดูอาการถ้าไม่ดีขึ้นจะพาปรึกษาแพทย์ต่อไป
นางพัชรา คงช่วย อายุ 48 ปี อยู่เลขที่ 3/7 หมู่ 1 บ้านดอนตาเหลือง ต.ท่าหิน อ.สวี จ.ชุมพร กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลให้นักเรียน เรียนผ่านระบบออนไลน์ โดยเริ่มให้ ด.ญ.ชนิกานต์ หรือน้องการ์ตูน เรียนชั้น ป.5 และ ด.ช.พงษกร หรือน้องกีต้า เรียนชั้น ป.6 ซึ่งเป็นบุตรชายและบุตรสาว เปิดแอปพลิเคชัน DLTV ดูการเรียนการสอนผ่านโทรศัพท์มือถือหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ในช่วงเช้าของวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกของการเรียนผ่านออนไลน์โดยให้น้องกีต้าและน้องการ์ตูนนั่งดูด้วยกันเป็นเวลาทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมง แต่ระหว่างวิชาก็ให้สลับกับหยุดพักสายตาประมาณ 5 นาที
วันแรกลูกชายและลูกสาวบอกว่า รู้สึกมึนหัว ด้านทางตนเองยังไม่สงสัยหรือเอะใจอะไร กระทั่งในวันที่สองให้ลูกชายลูกสาวเริ่มลงชื่อเรียนตามปกติ ปรากฏว่าทั้งสองคนมีอาการบวมเล็กน้อยที่ตาทั้งสองข้าง ช่วงบ่ายจึงสั่งให้หยุดเรียนชั่วคราวก่อนเพื่อสังเกตุอาการ ต่อมาวันที่สามได้ลงเวลาส่งรายชื่อและภาพถ่ายว่านักเรียนได้เรียนออนไลน์แล้วส่งให้ครูทางโรงเรียนทราบ และมีอาการหนักขึ้นในระหว่างเรียนคือน้องกีต้าลูกชายเรียนชั้นป.6 ตาเริ่มบวมมากขึ้นกว่าเดิมจึงสั่งให้หยุดเรียนทางโทรศัพท์มือถือและทางช่องสถานีโทรทัศน์ทันที ซึ่งลูกชายบอกว่ายังมึนศีรษะด้วย
โดยอาการดังกล่าวเป็นทั้งสองคนแต่คนน้องคือ ด.ญ.ชนิกานต์ หรือน้องการ์ตูนอาการจะไม่รุนแรง ส่วนน้องกีต้าก่อนหยุดเรียนจะอาเจียนด้วยหลังมีอาการต้องให้นอนพักผ่อนและกินยาพาราเซตามอลช่วยระงับอาการ แต่หลังจากหยุดดูหน้าจอโทรศัพท์มีอาการดีขึ้น โดยจะรอดูอาการอีกครั้งถ้าไม่ดีขึ้นจะพาไปพบแพทย์ต่อไป
เวลาต่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปทางด้าน นพ.อนุ ทองแดง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร โดยกล่าวว่า ทั้งนี้ต้องดูก่อนว่าการเรียนออนไลน์นั้นผ่านคอมพิวเตอร์ไอแพต หรือมือถือ ซึ่งจอดังกล่าวจะมีแม่สีคือ สีแดง เขียว น้ำเงิน แสงที่ทำอันตรายต่อตาคือน้ำเงิน การดูหน้าจอนานๆ ควรตั้งไว้ที่วอร์มไลฟ์ หรือที่เรียกว่าโหมดสีจืดแต่การตั้งสีดังกล่าวมีข้อเสียคือเด็กจะไม่ชอบ ข้อดีคือไม่ทำลายสายตาเด็ก และเครื่องคอมฯ ต้องมีแผ่นกรองสีฟ้าหรือเสื่อน้ำเงิน โดยหาซื้อได้ทั่วไปในราคาประมาณ 100 บาท
โดย นายแพทย์อนุ แนะนำการใช้สายตาอีกว่า ดู 20 นาที พัก 20 วินาที มองไกลประมาณ 20 ฟุต ซึ่งเป็นสูตรเชิงทางการแพทย์ กรณีมีน้ำตาไหล บวม ควรพบแพทย์โรงพยาบาลใกล้บ้านหรือจักษุแพทย์ ทั้งนี้นายแพทย์อนุฝากถึงผู้ปกครองให้สังเกตอาการบุตรและปฏิบัติตามสูตร 20 20 20 ตามที่แจ้งข้างต้น