กรณี พ.ต.ท.จีรุฏฐ์ พิมพา รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองนครพนม ร่วมกับ ร.ต.อ.ประเสริฐศักดิ์ แสงสา ร้อย ตชด.236 พ.ท.ณัฐ เหมือนบุดดี รอง ผอ.กอ.รมน.ฯ พ.ต.ต.อาณัฐชัย ก้อนทอง สว.ตม.นครพนม(สารวัตรตรวจคนเข้าเมือง)  และ พ.ต.ต.มานพ เดื่อมทั้น สว.ส.ทล.4 กก.1 บก.ทท.2(ตำรวจท่องเที่ยว)  สืบทราบว่ามีวัยรุ่นมั่วสุมบริเวณกระท่อมกลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้านวังกระแส หมู่ 3 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ประกอบด้วย พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม(ผบก.ภ.จว.ฯ) พ.ต.อ.ณรงค์ นาคทั่ง รอง ผบก.ภ.จว.ฯ พ.ต.อ.วรเพชร เพชรบรม ผกก.สภ.เมืองนครพนม พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด.23 พ.ต.อ.สมเกียรติ สนใจ ผกก.ตม.จว.นครพนม บูรณาการเข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าวซึ่งอยู่ห่างไกลจากชุมชน     

พบชายหนุ่มจำนวนสองคน โดยคนหนึ่งกำลังขะมักเขม้นใช้เครื่องกลึงเหล็ก ส่วน อีกคนก้มหน้าประกอบอาวุธปืน และเปิดเพลงลูกทุ่งอีสานเสียงดังลั่น เจ้าหน้ทาที่ค่อยๆย่องเข้าไปหมายตะครุบตัวให้คาหนังคาเขา ปรากฏว่าชายที่กำลังกลึงเหล็กเงยหน้าขึ้นมา จ๊ะเอ๋กับกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงทิ้งอุปกรณ์วิ่งเตลิดหนีเข้าป่า ส่วนอีกคนถูกรวบตัวไว้ได้ทัน ทราบต่อมาว่าชื่อนายสันทกร นาบุญ หรือสัน อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 57 หมู่ 3 บ้านวังกระแส ต.บ้านผึ้ง ส่วนอีกคนที่วิ่งหลบหนีไปได้  ชื่อนายทนงศักดิ์  แก้วพริ้ง หรือดำ อายุ  25 ปี บ้านเลขที่ 119 หมู่ 16 บ้านวังกระแส ต.บ้านผึ้ง ซึ่งเป็นเจ้าของกระท่อมดังกล่าว

จากการตรวจตรวจสอบภายในกระท่อม เจ้าหน้าที่ถึงกับผงะเพราะพบอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับประกอบอาวุธปืนวางกระจัดกระจายอยู่จำนวนมาก ซึ่งมีทั้งอาวุธปืนที่ประกอบเสร็จแล้ว และบางส่วนกำลังขึ้นโครงเหลาไม้เป็นด้ามปืน เช่นอาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์(ปืนแก๊ป)  2 กระบอก,ปืนสั้นไทยประดิษฐ์(ปืนแก๊ป) 6 กระบอก, ปืนสั้น ขนาด 9 ม.ม.1กระบอก,ด้ามพานท้ายปืนเป็นไม้พะยูง 6 ด้าม,ท่อนเหล็ก 2 ท่อน,เครื่องปั่นไฟขนาด 5,500 วัตต์ 1 เครื่อง,เลื่อยวงเดือน 1 เครื่องพร้อมใบตัด,และแท่นเจาะสว่านสูง 2 เมตร 1 เครื่อง

นอกจากนี้ในกระท่อมยังพบอุปกรณ์การเสพยาบ้าจำนวนหนึ่ง พร้อมยาบ้า 1 เม็ด รถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับบลิว ทะเบียน กม 3139 สระบุรี และรถจักรยานยนต์อีก 4 คัน ซึ่งจะนำไปตรวจเช็คว่าเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมา หรือใช้ในการลำเลียงยาเสพติดส่งให้ลูกค้าหรือไม่  จึงยึดไว้เพื่อตรวจสอบ  พร้อมนำตัวนายสันทกรไปตรวจหาสารเสพติด พบฉี่เป็นสีม่วง

สอบสวนเบื้องต้นนายสันทกรหรือสัน ให้ปากคำว่ามีอาชีพรับจ้างก่อสร้างที่กรุงเทพฯ แต่ภายหลังตกงาน  จึงกลับบ้านหาลำไพ่พิเศษด้วยการไปช่วยทำปั้มน้ำกับพ่อของนายทนงศักดิ์หรือดำ  มีศักดิ์เป็นญาติที่เถียงนาดังกล่าว และปฏิเสธว่าอาวุธปืนและอุปกรณ์ต่างๆไม่ใช่ของตน แค่มาเป็นลูกมือให้กับนายทนงศักดิ์ เพื่อแลกกับยาบ้าเสพเท่านั้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนายหนึ่ง เปิดเผยว่าเบื้องต้นรับแจ้งว่ามีการมั่วสุมเสพยาเสพติดและส่งเสียงดังเป็นประจำ บริเวณกระท่อมดังกล่าว ตอนเข้าตรวจสอบไม่ทราบพิกัดแน่ชัด แต่มีเสียงเพลงดังลอยมาแต่ไกล จึงเดินไปตามเสียงเพลงนั้น พบกระท่อมตรงกับที่รับแจ้ง มีชายสองคนเพลิดเพลินกับเสียงเพลงก้มหน้าทำงานอย่างเขม้นขะมัก พอเจอเจ้าหน้าก็ลุกขึ้นวิ่งหนีไปได้หนึ่งคน ตรวจสอบก็ต้องตะลึงเพราะกระท่อมดังกล่าว ถูกเนรมิตเป็นโรงงานผลิตปืนเถื่อนวูกซ่อนอยู่กลางทุ่งนา โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าจะผลิตตามออเดอร์ที่สั่ง

     เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายสันทกรว่า ร่วมกับพวกที่หลบหนีทำและมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่,มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป