ตร.จำลองเหตุไฟไหม้ "กุฎิหลวงพ่อสุดใจ" ศิษย์ยืนยัน - ไร้ข้อขัดแย้ง
26 พ.ค. 2563, 19:32
วันที่ 26 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาในชั้น 2 วัดเกษรศีลคุณ หรือ วัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง ที่เก็บอัฐิธาตุของ พระอาจารย์ สุดใจ ทันตมโน อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด มีศิษยานุศิษย์ ยังคงทยอยเดินทางมากราบสักการะอัฐิธาตุอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มีพิธีถวายเพลิงสรีระสังขารของ พระอาจารย์สุดใจฯ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันที่กุฏิของพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน ที่ถูกเพลิงไหม้ จนทำให้พระอาจารย์สุดใจฯ มรณภาพ พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี ได้เข้ามาเก็บรายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยมี พระรัฐวีร์ ฐิตวีโร หรือ พระอาจารย์ กอไผ่ รักษาการวัดป่ากกสะทอน พระอาจารย์สุลาน ปภัสสโร พระลูกวัดที่ดูแลเรื่องวิทยุเสียงธรรม พร้อมนิมนต์พระที่อยู่ในวันเกิดเหตุที่พบเห็นเหตุการณ์ พระที่เข้ามาช่วยดับไฟ พระที่นำบันไดมาปีนงัดลูกกรงเหล็กดัดที่เข้าไปช่วยนำร่างของพระอาจารย์สุดใจฯ ออกจากกุฏิ เพื่อจะทราบรายละเอียดว่า ขณะเกิดเหตุมีพระรูปใดอยู่ที่จุดไหนบ้าง รวมทั้งทำการรวบรวมภาพถ่ายและคลิปวิดีโอจากโทรศัพท์มือถือ ที่มีพระและฆราวาส ถ่ายไว้ขณะเกิดเหตุมาประกอบ
รวมทั้งมีการตรวจสอบตัวกุฏิที่เกิดเหตุอย่างละเอียด มีการนำเทปวัดขนาดความกว้าง ความยาว ความสูง ของกุฏิ วัดระยะของเสา วัดระยะแบ่งห้องบนกุฏิ เพื่อนำมาเขียนแบบแปลน มาประกอบสำนวนคดี พร้อมจุดต่าง ๆ ที่มีสิ่งของ โต๊ะ ตู้เหล็ก ชุดคอมพิวเตอร์ จุดที่มีปลั๊กไฟ สะพานไฟ อย่างละเอียด ซึ่งก่อนหน้าจะมีการจำลองเหตุการณ์เหมือนจริงในวันเกิดเหตุ แต่พระในวัดมีกิจของสงฆ์ที่ต้องทำ ทางตำรวจจึงจะเปลี่ยนใช้การมาร์คจุดลงในแบบแปลนพื้นที่ ที่มีการนำโดรนมาบินเก็บภาพมุมสูงบริเวณกุฏิที่เกิดเหตุแทน โดยมีการนำกลับไปดำเนินการที่ กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พระอาจารย์สุลาน ปภัสสโร พระวัดป่าบ้านตาด เรื่องที่มีผู้อ่างว่าเป็นตัวแทนชาวพุทธ เข้าแจ้งความกับทางตำรวจกองปราบ โดยได้ดูภาพของกลุ่มผู้ที่มาร้องเรียนแจ้งความ พระอาจารย์สุลาน บอกว่า ถามคนที่ไปแจ้งความสงสัยการตายของพระอาจารย์สุดใจ ว่าเป็นญาติกับท่านหรือ ญาติพระอาจารย์สุดใจ ที่มาร่วมงานเขายังไม่ว่าอะไร ไม่สงสัยอะไร แล้วอยากทราบว่าคนที่แจ้งเป็นอะไรกับทางวัด กับทางหลวงพ่อ แล้วเคยมาวัดป่าบ้านตาดไหม อาตมาอยู่วัดมานาน ยังไม่เคยเห็นคนพวกนี้มาที่วัดเลย แล้วไปแจ้งความสงสัยอะไร
พระรัฐวีร์ ฐิตวีโร หรือ พระอาจารย์กอไผ่ รักษาการวัดป่ากกสะทอน บอกว่า มีคนสงสัยเรื่องพระในวัดป่าบ้านตาดขัดแย้งกัน อยากให้รู้ว่าพระป่าเป็นพระปฏิบัติ กุฏิที่อยู่ก็แยกกันอยู่ห่างกัน พระที่มาอยู่ทุกรูปครูบาอาจารย์หลวงตามหาบัวสั่งไว้ว่า ห้ามพระไปคุยกันที่กุฏิ ให้ต่างคนต่างอยู่ศึกษาพระธรรมไป หากท่านเห็นว่ามีพระไปคุยกันที่กุฏิอื่น ท่านก็จะไล่ให้กลับไปที่กุฏิ
แล้วอีกเรื่องท่านจะไม่ให้พระคุยกัน ทำให้พระในวัดเดียวกัน ก็จะไม่ค่อยได้คุยกัน เดินสวนกันก็ไม่พูดกัน ทำให้คนอื่นที่เห็นไปเข้าใจว่าพระไม่พูดคุยกัน มีเรื่องขัดแย้งกัน และหากว่าพระขัดแย้งกัน ตอนจะแต่งตั้งเจ้าอาวาส ที่ตั้งพระอธิการสุธรรม ที่มาจากวัดอื่น หากพระในวัดขัดแย้งกัน ทำไมจึงมีมติสงฆ์ร่วมกัน โดยไม่มีพระรูปใดคัดค้าน
“ส่วนพระที่บอกมาร้องเรียนบอกแจ้งความกับพวกที่กรุงเทพ แล้วมาอ้างว่า มาจากวัดป่ากกสะทอน ที่อาตมาเป็นเจ้าอาวาส อาตมาทราบว่าเป็นพระที่บวชที่ จ.ร้อยเอ็ด มาโกหกว่ามาจากวัดอาตมา ขอถามว่าที่พระรูปนี้โกหก ท่านไปปลงอาบัติแล้วหรือยัง”
ด้านายวราวุฒิ โลหิตดี อายุ 58 ปี หลานชายของพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด (ลูกน้องชายหลวงตา) เปิดเผยว่า ในฐานะที่เป็นหลานหลวงตา และอยู่ที่วัดนี้มานาน เรื่องความขัดแย้งในวัดเป็นเพียงแค่ความเห็นต่างเฉย ๆ การเกิดไฟไหม้ ไม่ได้เกิดจากฝีมือคน เพราะก่อนเกิดไฟไหม้ 1 วัน โยมอุปัฏฐากที่ใกล้ชิดหลวงพ่อสุดใจ เห็นกระรอกกระแตกัดสายไฟ จนไฟมันสปาร์ค เห็นแสงแว๊บ ๆ เลยพูดกันว่าพรุ่งนี้จะซื้อสายไฟมาเปลี่ยนให้หลวงพ่อ พอถึงพรุ่งนี้บ่ายโมงกว่า ๆ ยังไม่ได้เปลี่ยนเลยก็เกิดไฟไหม้ คิดว่าสาเหตุมาจากตรงนั้น ตำรวจลงมาตรวจที่เกิดเหตุ ถ้าดูการไหม้ของไฟแล้วเป็นหลุม ว่าจะเป็นการวางเพลิง มันไม่ใช่ เพราะมันเป็นจุดที่แอลกอฮอล์ล้างมือเป็นลังวางอยู่ เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงไหม้ตรงนั้นและประทุเสียงดังตูมตามเป็นเชื้อไฟอย่างดี ตนอยู่นอกรั้ววัด แต่วิ่งมาทันเอาหลวงพ่อส่งโรงพยาบาล แต่ไฟยังครุกรุ่นอยู่เลย
หลานหลวงตาบัว บอกอีกว่า ส่วนเรื่องขัดแย้งในวัดป่าบ้านตาด เป็นแค่ความเห็นต่าง ก็คนนำไปขยายเลยขยายยาวออกไปเรื่อยๆ แทนที่จะพูดความจริงสิ่งที่เกิดขึ้น กับเพิ่มเติมเลยขยายยาวออกไปเรื่อยๆ ไม่มีการทะเลาะในวัด มีแค่ความเห็นต่าง ทุกรูปยังร่วมสังฆกรรมกัน ร่วมฉันท์ ร่วมลงอุโบสถ ร่วมกิจวัตรตามปกติ พูดคุยและมองหน้ากัน ไม่ได้มีความความแค้นส่วนตัว ไมได้มีความแค้นแบบฆารวาสทำกัน ที่จะต้องตายไปข้างหนึ่งไม่มี
ซึ่งถ้าจะให้เปรียบเทียบบรรยากาศระหว่างหลวงตากับหลวงพ่อสุดใจ เป็นเจ้าอาวาสนั้นแตกต่างกัน เพราะหลวงตารู้ทันคุมเกมอยู่ แค่หลวงตากระแอม พระลูกวัดก็สะดุ้งแล้ว อะไรที่จะเกิดขึ้นหลวงตาจะงับได้หมด คุมเกมได้หมด ส่วนหลวงพ่อสุดใจ เพราะท่านใจดี มีนิสัยไม่ค่อยพูด บวกกับสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง จึงไม่ค่อยเข้มงวด อุปนิสัยของท่านไม่ค่อยยุ่งเรื่องหยุมหยิม ปัญหาขัดแย้งในวัดไม่ใช่เรื่องใหญ่ เป็นแค่ความเห็นต่าง คนไม่รู้ก็นำไปขยายให้ใหญ่โต ท่านจึงไม่ได้สนใจ
ส่วนกรณีมีผู้ไปแจ้งความที่กองปราบ เรื่องเผาเร็ว ตนเห็นว่าไม่ถูกต้อง เพราะคนที่ไปแจ้งความไม่ได้อยู่ในพื้นที่ตรงนี้ ไม่รู้มาจากไหน ไม่เคยเห็นหน้า จู่ๆ ก็โผล่มา อยากจะกราบเรียนคนที่จะทำให้วัดเกิดความวุ่นวาย ตนในฐานะหลานหลวงตามหาบัว ขอบิณฑบาตเถอะ เรื่องมันจบไปแล้ว เรื่องที่พวกคุณไปแจ้งความนั้นไม่มีมูล กรุเรื่องขึ้นมา พอเถอะครับ เราจะช่วยกันรักษา ช่วยกันบำรุง ช่วยกันดูแล องค์ท่านละสังขารไปแล้ว ขอให้คนรุ่นหลัง ขอให้คนที่อยู่ ช่วยกันรักษาความเป็นวัดของหลวงตา ที่เป็นอันดับหนึ่งไว้เถอะ
“การไปแจ้งความแบบไม่มีมูล ถามว่าไปแจ้งทำไม พวกคุณอยากมีชื่อเสียง อยากเป็นข่าวเหรอ ทำให้คุณดังเหรอ ขณะเดียวกันคุณดังแต่วัดของหลวงตาเสียหาย ผมขอเถอะ ไปถอนแจ้งความเถอะครับ ไหนๆ เรื่องก็จบไปแล้ว หลวงพ่อสุดใจท่านก็ไม่ฟื้นมาแล้ว คนที่อยู่ พระที่อยู่ที่นี่ก็ปกติดี ปกติสุขและบำเพ็ญเพียรไป มาตีโพยตีพายโดยไร้เหตุผล ไร้ความจริง ไม่มีข้อมูล ไม่มีหลักฐาน คุณเอามาแสดง คุณมโนว่าเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ มโนไปเอง ขอร้องเถอะครับ อย่ามโนเลย ทำให้วัดหลวงตาเสียหาย เสื่อมเสีย///////////////