ผอ.สบทช.4 นำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความเรียบร้อย หลังชาวบ้านเข้าไปจับหอยของผู้ประกอบการ
30 พ.ค. 2563, 19:03
วันที่ 30 พ.ค. 63 ผู้สื่อข่าว ONbnews รายงานว่า นายวิชัย สมรูป ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 นำเจ้าหน้าออกตรวจสอบความเรียบร้อย ในพื้นที่อ่าวบ้านดอน เขตอำเภอเมืองและอำเภอพุนพิน หลังจาก เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พลโท สิทธิพร มุสิกะสิน แม่ทัพน้อยที่ 4 พร้อมด้วย นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ กลางทะเลติดตามการรื้อถอนคอกหอยที่อยู่ในเขตอำเภอเมืองและยืนยันว่าพื้นที่อ่าวเขตอำเภอเมืองและอำเภอพุนพิน เป็นพื้นที่ชุมน้ำนานาชาติเป็นพื้นที่อนุรักษ์ไม่สามารถอนุญาตให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งเข้ามายึดครอบครอง จึงเปิดพื้นที่ทั้งหมดให้ประชาชนเข้าไปดำเนินการจับสัตว์น้ำด้วยเครื่องมือถูกกฎหมายอย่างได้อย่างเสรี แต่ปัญหาที่ตามมาคือชาวบ้านจำนวนมาก ได้รุกเข้าไปยังคอกหอยที่ได้รับการผ่อนปรนจากกรมเจ้าท่าฯ
โดยวันนี้มีชาวประมงพื้นบ้านจำนวนมากนำเรือมาลอยลำเพื่อเตรียมลงจับหอยแครงในพื้นที่เขตอำเภอพุนพิน หลังจากพื้นที่เขตอำเภอเมืองหอยแครงเริ่มร่อยหรอแล้ว และได้มีเรือติดเครื่องขยายเสียงของผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของคอกหอย ขึ้นพูดว่าบริเวณบางส่วนเป็นคอกหอยของตน ซึ่งอยู่นอกเขต 1000 เมตร และได้รับการผ่อนปรนจากกรมเจ้าท่า โดยได้ชื้อลูกหอยมาเลี้ยงไว้ ปัจจุบันมีทั้งหอยใหญ่และหอยเล็กจำนวนมากจึงขอให้ชาวประมงระงับการเข้าจับหอยก่อนเพราะมีผู้ประกอบการบางรายได้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจภูธรพุนพินแล้ว
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมพนักงานสอบสวน เดินทางเข้าตรวจสอบขนำ ในพื้นที่ ต.บางชนะ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี หลังสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 (สุราษฎร์ธานี)เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกปลูกสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับปัญหาที่ตามมาจากการที่ชาวประมงชายฝั่งจำนวนมากลงจับลูกหอยแครงในพื้นที่อ่าวบ้านดอนและอ่าวพุนพินคือ ขยะในทะเล ไม่ว่าจะเป็นกล่องโฟม พลาสติก ขวด และกระป๋องเครื่องน้ำดื่มชูกำลังลอยเต็มท้องทะเลอ่าวบ้านดอนโดยไม่มีหน่วยงานไหนกำกับดูแล
จากนั้นนายประเสริฐ ชัญจุกร กำนันตำบลลีเล็ดอำเภอพุนพิน ได้ออกมาชี้แจงว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่สงวนของชุมชน มีการลงทุนชื้อลูกหอยมาเลี้ยง และหอยมีขนาดใหญ่รอการจับ เป็นทรัพย์สินของบุคคลจึงขอเวลาให้เจ้าของได้เก็บผลผลิตก่อน โดยนายประเสริฐ กล่าวว่าได้ทำหนังสืออุทธรณ์คุ้มครองพื้นที่ ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีแล้ว เนื่องจากผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 ได้มีคำสั่งให้ยกเลิกเพิกถอนคำสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำ ตามหนังสือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี ที่คค 0314.4/278 ลงวันที่ 23 มกราคม 2562โดยให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี พิจารณาอนุญาตตามหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอนุญาตปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดล่วงล้ำลำแม่น้ำที่กำหนดไว้ในข้อ 5 ของประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้งและการพิจารณาอนุญาตปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดล่วงล้ำลำแม่น้ำ ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 32/2560 จึงขอเพิกถอนคำสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำ ตามหนังสือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี
ด้านนายวิชัย สมรูป ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 ได้ชี้แจงถึงการขออุทธรณ์พื้นที่ของชาวชุมชนลีเล็ดและขอให้ชาวประมงออกจากพื้นที่โซนนี้ไปก่อนโดยจังหวัดสุราษฎร์ธานีจะมีการประชุมหาข้อสรุปในวันจันทร์ ที่ 1 มิถุนายน นี้ แต่หลังจากคณะของผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 ออกจากพื้นที่ชาวประมงพื้นบ้านประมาณ 200 ลำได้กลับเข้าไปในพื้นที่อีกครั้ง จนทำให้ผู้ประกอบการเลี้ยงหอยต้องคอยเฝ้ากันเองไม่ให้ชาวประมงเข้าจับหอยแครง
สำหรับคดีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย เข้าจับกุมพ่อค้าลูกหอยแครงแล้วเรียกเงินนั้น ต่อมาคณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริงได้ส่งมอบสำนวนการสอบสวนปากคำผู้กล่าวหาและพยานแวดล้อม เนื้อหา กว่า 200 หน้า พร้อมพยานหลักฐานให้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานีเพื่อพิจารณาสั่งคดี ตามกฎหมายนั้น
นายพงษ์ศักดิ์ โชติพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ล่าสุดคณะกรรมการ ปปช.ประจำจังหวัด ได้มีมติ ให้ส่งสำนวนการสอบสวนปากคำผู้กล่าวหา และพยาน ให้ยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาค 8 เพื่อดำเนินการ ออกความเห็นในคดีต่อไป โดยคาดว่าในการดำเนินการนั้น อย่างเร็วที่สุด จะต้องใช้เวลาในการพิจารณาสั่งสำนวน ไม่น้อยกว่า 6 เดือน