ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. พลตำรวจตรีฐากูร เนตรพุกกณะ ผู้บังคับการจังหวัด ฯ ได้เรียกประชุม หัวหน้าสถานีตำรวจในพื้นที่ริมชายฝั่งทะเลทั้งหมด และเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ เพื่อกำชับการปฏิบัติหน้าที่ ในการรักษาความสงบในพื้นที่อ่าวบ้านดอน ไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นในอ่าวบ้านดอนขณะที่มีประชาชนจำนวนมากเข้าพื้นที่มาจับลูกหอยแครง และมีการกระทบกระทั่งกันกับผู้ประกอบการเลี้ยงหอยที่ได้รับการผ่อนปรน

 

พลตำรวจตรีฐากูร กล่าวว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในพื้นที่อ่าวไทยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจได้ประสานงานกับทางจังหวัด ฯ โดยตลอด เพื่อรักษาความปลอดภัยและสร้างความมันใจในชีวิตและทรัพย์สินของชาวประมง สำหรับวันนี้ได้ประชุมตำรวจน้ำและตำรวจภูธรเพื่อบูรณาการ ในการออกตรวจเพื่อป้องกัน เหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้ชาวบ้านอุ่นใจ

 

ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. พลโท สิทธิพร มุสิกะสิน แม่ทัพน้อย ภาค 4 พร้อมด้วย นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่อ่าวบ้านดอน เพื่อติดตามปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเขตอำเภอเมืองและพุนพิน หลังจากก่อนหน้านี้ได้ลงพื้นที่มาแล้วหนึ่งครั้ง โดยประกาศว่าพื้นที่อ่าวบ้านดอน อ.เมือง และ อ.พุนพิน สามารถดำเนินการการด้านการประมงโดยไม่ใช้เครื่องมือผิดกฎหมายได้ แต่หลังจากนั้นปรากฎว่าเกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างผู้ครอบครองเก่า และชาวประมง โดยเฉพาะพื้นที่ ตำบลลีเล็ด อ.พุนพิน ทางชุมชน และผู้ประกอบการได้ยื่นเรื่องขอให้ทางจังหวัดคุ้มครองชั่วคราวและพิจารณา เนื่องจากเป็นพื้นที่เลี้ยงหอยใหญ่ จึงได้มีการลงพื้นที่ติดตามพร้อมด้วย ประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 สุราษฎร์ธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเรื่องเข้าประชุมด่วนหาข้อยุติในบ่ายวันเดียวกัน

นายเกียรติศักดิ์ เกษมพันธ์กุล ประมงจังหวัด สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า วันนี้จะต้องเข้าไปดำเนินการตรวจสอบพื้นที่คอกหอยว่าเข้าข่ายกฎหมายประมง ว่าด้วยกฎหมายตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และพระราชกำหนดการประมง ฉบับ 2 พ.ศ.2560 ที่ถือว่า เป็นสิ่งปลูกสร้าง ในที่จับสัตว์น้ำซึ่ง ยังไม่ใช่พื้นที่ประกาศเป็นเขตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ หรือไม่

และถ้าพิสูจน์มีหลักฐานปรากฎชัดโดยพนักงานสอบสวน จะเข้าข่ายผิดตามมาตรา 77 ประกอบมาตรา 79 คือเพาะเลี้ยงนอกเขตพื้นที่ ที่คณะกรรมการประมงจังหวัดได้ประกาศไว้ ซึ่งจะมีการดำเนินตามกฎหมายต่อไป