พบลุงวัย 59 บ้านทรุดหลังคารั่วฝนตกใช้ผ้ายางคลุมนอน กาชาด-พม.รุดช่วยเหลือ
5 มิ.ย. 2563, 16:31
วันที่ 5 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวONB newsรายงานจาก นางเพ็ญจันทร์ รัตนาภรณ์วงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชุมพรและคณะ พร้อมด้วย นางวัลภา แก้วสวี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร นางพยอม กรแก้ว ปลัดอำเภอสวี และนายเกรียงศักดิ์ ปักษิน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันเดินทางลงพื้นที่หมู่ 10 ตำบลด่านสวี อำเภอสวี จ.ชุมพร เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจและให้การช่วยเหลือนายอภิรมย์ ภู่ขันเงิน อายุ 59 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป อยู่ตัวคนเดียว ภายหลังทราบว่ามีฐานะยากจน บ้านพักอาศัยผุพังสภาพเก่าทรุดโทรม
พบนายอภิรมย์ หรือลุงรมย์ ยืนรอต้อนรับอยู่ในสวนปาล์มน้ำมันใกล้บ้านและพาไปดูบ้านที่ใช้เป็นที่พักอาศัยหลับนอนซึ่งเป็นขนำยกพื้นสูงปลูกอยู่บนพื้นที่โล่งกว้างกลางทุ่ง สภาพหญ้าขึ้นรกมีน้ำขังนอง หลังคามุงด้วยใบจากฝาข้างกั้นด้วยไม้สลับกับใบจากสภาพเก่าผุพังทั้งหลัง จนดูเหมือนว่าเป็นบ้านร้างไม่สามารถพักอาศัยอยู่ได้
นายอภิรมย์ หรือลุงรมย์บอกว่า ได้ปลูกบ้านหลังดังกล่าวและพักอาศัยมาประมาณ 20 ปีหลังจากแยกทางเลิกรากับอดีตภรรยาก็ใช้ชีวิตตัวคนเดียวมาตลอด โดยมีอาชีพรับจ้างทั่วไปมีรายได้วันละ100-200 บาท วันไหนไม่ได้ทำงานก็ไม่มีเงิน ทำมาหากินไปวันๆจึงไม่มีเงินเหลือเก็บพอที่จะมาซ่อมแซมบ้านก็อยู่ไปตามยถากรรม ที่บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ต้องจุดตะเกียงให้แสงสว่าง น้ำประปาก็ไม่มีส่วนน้ำกิน น้ำอาบไม่ได้ซื้อแต่ไปโยกจากบ่อบาดานใกล้บ้านมาใส่ขวดพลาสติกรองให้ตะกอนนอนก้นถึงจะเอามากิน ลุงรมย์ บอกอีกว่าคืนไหนฝนตกจะเอาผ้ายางมาปูนอนครึ่งหนึ่งและใช้คลุมตัวกันเปียกฝนครึ่งหนึ่งผ้ายางยังป้องกันหนาวได้ด้วย และขอขอบคุณทุกคนที่เดินทางมาให้ความช่วยเหลือ ตนไม่มีโทรศัพท์ใช้จึงอาจจะยากในการติดต่อสื่อสารหรือสอบถามมาทางผู้ใหญ่บ้านก็ได้
ด้านนางเพ็ญจันทร์ รัตนาภรณ์วงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชุมพร กล่าวว่า เบื้องต้นได้มอบถุงยังชีพเพื่อได้บรรเทาความเดือดร้อนในเรื่องอาหารการกินและเงินจำนวนหนึ่ง หลังจากนี้จะเร่งดำเนินการเรื่องร่วมกันจัดหางบประมาณจัดปลูกสร้างบ้านพักให้ดีกว่านี้ซึ่งหลังเดิมทรุดโทรมมากหวั่นเกิดอันตรายได้ โดยมอบหมายให้พัฒนาสังคมฯและเจ้าหน้าที่อำเภอโดยเฉพาะผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ทางจังหวัดพร้อมให้การช่วยเหลือด้านสวัสดิการของรัฐอีกทางด้วย
สำหรับการให้การช่วยเหลือนายอภิรมย์ฯในครั้งนี้นั้น สืบเนื่องจากเมื่อสัปดาห์ก่อนผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่านายอภิรมย์ หรือลุงรมย์ได้เลี้ยงไก่ชนไว้หนึ่งตัวและดูแลรักเหมือนลูกไปไหนไปด้วยกันจะติดสอยห้อยตามตลอดเวลาให้ยืนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์โดยไม่กระโดดลงจากรถ หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบและได้เห็นสภาพบ้านและความเป็นอยู่ของลุงรมย์ว่ามีฐานะยากจน ต่อมาจึงได้ประสานไปยังนางวัลภา แก้วสวี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร พร้อมนำเหล่ากาชาดจังหวัดชุมพรและผู้นำท้องถิ่นเข้าให้การช่วยเหลือตามที่เป็นข่าว