โควิดต้นเหตุ !! สามีเผยสาเหตุ "ภรรยาสาว" ตัดสินใจลาโลก ระบายความรู้สึกผ่านเฟซบุ๊ก (มีคลิป)
11 มิ.ย. 2563, 08:28
จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ”ศักดิ์สิทธิ์ แสงแก้ว” โพสต์ระบายความรู้สึกขณะกล่อมลูกชายวัย 6 เดือน อยู่หน้าโลงศพของภรรยา พร้อมรำพันว่า”ตายจากกันทั้งที่ยังรักกัน.มันทรมานมาก..ใครไม่เจอกับตัวเองคงไม่มีวันรู้” “เป็นภาพสามคนพ่อแม่ลูกที่ทรมารใจ” R.I.P. พิชญ์ศิริโสภา(บิว)ทำไมต้องทิ้งพี่กับลูกไป” หรือ “ค่าเช่าร้านสแตนบาย 3 เดือนสี่หมื่นห้าร้อยบาท ร้านก็เปิดไม่ได้ บาทเดียวก็ไม่ลดให้ สัญญาเช่าก็ไม่ต่อให้.ต้องได้ลื้อร้าน” เป็นต้น จึงมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก
ล่าสุด วันที่ 10 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดหัวดอน ตรงข้ามกับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชฯ ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ น.ส.พิชญ์ศิริโสภา มณีโคตม์ หรือน้องบิว อายุ 21 ปี มีญาติพี่น้องกำลังเตรียมของชำร่วยไว้แจกผู้ที่มาร่วมงานฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้ (11 มิถุนายน 2563) โดยมีนายศักดิ์สิทธิ์ แสงแก้ว อายุ 49 ปี ผู้เป็นสามีอุ้มลูกชายอยู่ในอ้อมอก และเป็นผู้ลงเฟซบุ๊กระบายความรู้สึกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายศักดิ์สิทธิ์ เปิดเผยว่า พื้นเพเป็นคนจังหวัดนครราชสีมา เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ได้เปิดกิจการร้านอาหารกึ่งผับอยู่ในตัวอำเภอธาตุพนม ซึ่งไม่ไกลจากทางเข้าตำบลน้ำก่ำ มากนัก โดยกู้ยืมเงินนอกระบบจากพรรคพวกมาจำนวน 1 ล้านบาท กิจการก็พอประคองตัวอยู่ได้ แล้วมาพบรักกับน้องบิวจึงตกลงอยู่กินฉันสามีภรรยา มีพยานรัก 1 คน เป็นชายวัย 6 เดือน
กระทั่งเกิดเหตุการณ์โรคโควิด-19 แพร่ระบาด รัฐบาลประกาศปิดสถานบันเทิงที่อาจเป็นต้นเหตุการณ์แพร่กระจายของเชื้อโรค ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตนและภรรยาจำต้องปิดกิจการตามคำสั่งของรัฐบาล แต่ไม่มีเงินเดือนที่จะจ่ายลูกน้องที่เป็นเด็กเสิร์ฟ 3 คน จึงขอติดค้างไว้ก่อน ปรากฏว่าเด็กเสิร์ฟลงโพสต์ด่าไม่เว้นวัน ทำให้ภรรยาเกิดความเครียด และมีปากเสียงกันอยู่เป็นประจำ นอกจากนี้เจ้าของบ้านเช่าที่ตนเปิดเป็นผับก็ไม่ยอมลดค่าเช่าให้ แถมยังขอยกเลิกสัญญาอย่างกะทันหัน ตนจำต้องหาสถานที่ใหม่ที่อยู่ไม่ไกลจากที่เดิมนัก โชคดีหน่อยที่เจ้าหนี้เงินกู้ไม่คิดดอกเบี้ยในระหว่างที่ตนไม่มีรายได้
ก่อนเกิดเหตุวันที่ 8 มิถุนายน ขณะที่พวกตนกำลังขนย้ายข้าวของจากร้านเก่ามาที่ใหม่ น้องบิวมีความเครียดที่เห็นโพสต์อดีตเด็กเสิร์ฟในร้านลงด่าประจานอีก จึงขอกลับบ้านพักก่อน เมื่อตนเสร็จจากงานก็กลับเข้าบ้าน และได้มีปากเสียงกับเมียเกี่ยวกับเรื่องเงินที่ชักหน้าไม่ถึงหลัง ตนจึงออกมานั่งผ่อนคลายอารมณ์ที่หน้าบ้าน สักครู่น้องบิวเดินออกมาถามจะเข้าบ้านไหม ตนจึงเดินขึ้นไปนอนบนชั้นสองของบ้าน ขณะนั้นเห็นน้องบิวหยิบเชือกมาเส้นหนึ่ง ผูกมัดไว้ราวบันได ตนจึงพูดว่าอย่าคิดอะไรบ้าๆนะ แล้วก็เดินเข้าห้องทำทีเป็นนอน แต่เอียงหูฟังว่าเมียจะคิดพิเรนทร์อะไรหรือเปล่า ต่อมาน้องบิวก็เปิดประตูห้องโยนเชือกเส้นดังกล่าวเข้ามาแล้วปิดประตูกลับไป ตนคิดว่าเมียเลิกล้มความตั้งใจแล้วจึงผล็อยหลับไป
กระทั่งรุ่งเช้าเวลาประมาณ 09.30 น. ตื่นขึ้นมาไม่เห็นเมียลุกออกมาดู เห็นเมียนอนราบอยู่ที่บันได โดยมีเชือกผูกที่คอยังคิดว่าเมียแกล้งหยอก เมื่อลงมาดูใกล้ๆพบว่าน้องบิวมีสภาพลิ้นจุกปากเนื้อตัวเขียวคล้ำ ด้วยความตกใจทำอะไรไม่ถูก ตนร้องตะโกนสุดว่า”มึงทำอะไรบ้าๆวะ..บิว” แล้ววิ่งออกไปบอกเพื่อนบ้านช่วยโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้ด้วย เพราะโทรศัพท์ของตนไม่มีเงินไปจ่ายจึงถูกตัดสัญญาณ
นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าวต่อว่า เชือกที่เมียโยนไปในห้องนั้น ตนคิดผิดนึกว่าเมียไม่ทำแล้ว ที่ไหนได้เชือกเส้นดังกล่าวมันสั้นไปจึงไปหาเส้นใหม่มาผูกคอฆ่าตัวตาย ยอมรับว่าเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก อยากให้รัฐบาลออกมายืนยันว่าจะปลดล็อกสถานบันเทิงได้เมื่อไหร่ คนกลางคืนจะต้องเดือดร้อนเพราะพิษโควิดนานอีกแค่ไหนกัน ส่วนเงินเยียวยา 5 พันบาท ตนก็ได้รับเช่นกันแต่มันไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน ส่วนที่มีภาพตนนอนกล่อมลูกที่หน้าโลงศพ ไม่ใช่ต้องการเรียกร้องความสนใจจากใคร เพราะลูกชายร้องไห้หิวนมจึงนำมาป้อนนมที่หน้าโลงศพ และตนก็อยากมองภาพเมียกับรอยยิ้มที่สดใส จึงรำพึงรำพันลงในเฟซบุ๊ก เมื่อลูกหลับก็ให้ตากับยายรับช่วงดูแล ตนก็กลับมานอนในบ้านที่เกิดเหตุ เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็เรียกชื่อน้องบิวว่าพี่กลับมาแล้วไปนอนกับพี่นะ ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่กลัวเหรอนายศักดิ์สิทธิ์ตอบผมคิดเสมอว่าเมียยังไม่ตายครับ
เหตุการณ์สลดดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 9 มิถุนายน 2563 ร.ต.อ.ธีระพงษ์ ท่าโทม รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธาตุพนม รับแจ้งว่ามีคนผูกคนตายในบ้านพักหลังตลาดสดเทศบาลธาตุพนม จึงเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบศพหญิงสาวทราบชื่อ ว่า น.ส.พิชญ์ศิริโสภา มณีโคตม์ อายุ 21 ปี เป็นภรรยาของนายศักดิ์สิทธิ์เจ้าของร้านเหล้าชื่อแสตนบาย ในสภาพผูกคอด้วยเชือกที่ราวบันได คาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 10 กว่าชั่วโมงแล้ว ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายมักปากเสียงกับสามีบ่อยครั้ง และบ่นน้อยใจพร้อมเปรยว่ากลัวสักวันตัวเองจะฆ่าตัวตาย เพราะเครียดจากพิษโควิด-19 จนต้องปิดร้านมานานกว่า 3 เดือน ทำให้ขาดรายได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยคิดฆ่าตัวตายมาสองครั้งแล้ว แต่มาเจอก่อแล้วห้ามปราม แต่ครั้งนี้ชะล่าใจจึงทำให้น้องบิวฆ่าตัวตายสำเร็จ