"เลิกเคอร์ฟิว" 5 ทุ่ม 14 มิ.ย. เผยข้อปฏิบัติเคร่งครัด ออกนอกบ้านต้องสวมหน้ากาก
14 มิ.ย. 2563, 12:21
แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายคนอาจเบาใจลงว่าสถานการณ์ใกล้คลี่คลายแล้ว ล่าสุด วันนี้ 14 มิถุนายน 2563 เวลา 11.30 น. ทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. ได้แถลงสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย หายป่วยแล้ว 2,987 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,135 ราย เสียชีวิตสะสม 58 ราย
ทั้งนี้ ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว เริ่มตั้งแต่เวลา 23.00 น.วันที่ 14 มิ.ย. พร้อมรายละเอียดมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 4 เพื่อความคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีผล 15 มิ.ย. 63
พร้อมเผยเผยถึง ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด(พ.ร.ก.)การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 10) ความว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 26 พ.ค.2563 ให้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปตั้งแต่ วันที่ 1 มิ.ย.2563 จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.2563 นั้น
โดยที่สมควรผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 (โควิด-19 ) เป็นช่วงที่ 4 ต่อเนื่องจากการผ่อนคลายที่ดำเนินมาก่อนแล้ว เป็นลำดับ
ทั้งนี้ ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า การเว้นระยะห่างทางสังคม และการยอมรับระบบติดตามตัวผ่านแอพพลิเคชั่นทางโทรศัพท์มือถือ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดเป็นการทั่วไปและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการ
สาระสำคัญของประกาศฉบับนี้ คือการประกาศผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19) เป็นช่วงที่ 4 และการยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน เพื่อผ่อนคลายและบรรเทา ผลกระทบต่อการดำเนินเนินชีวิตประจำวันของประชาชน จึงให้ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่เวลา 23.00 น.ของวันที่ 14 มิ.ย.พ.ศ.2563