วันนี้ (15 มิ.ย. 2563) ผู้สื่อข่าว ONB news ได้เดินทางลงพื้นที่วัดพุเตย ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศลของเด็กถูกไฟช็อต ทั้ง 3 ราย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก จากพ่อแม่ของเด็กทั้ง 2 ครอบครัว และบรรดาญาติๆ เดินทางไปยังวัดที่ตั้งศพของเด็กทั้ง 3 ราย โดยมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ช่วยจัดพื้นที่สถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศลให้กับเด็กทั้ง 3 คน โดยในคืนนี้จะสวนเป็นคืนที่ 2 โดยศพจะสวดจำนวน 6 คืน แล้วจะทำการฌาปนกิจ โดยจะฌาปนกิจศพ ของ น้องปลา อายุ 12 ปี น้องของเด็กชายนนท์ อายุ 14 ปี ก่อน จากนั้นวันรุ่งขึ้นจะฌาปนกิจ น้องนนท์ พี่ชายน้องปลา เป็นวันที่ 2 แล้ววันสุดท้าย ก็จะทำการฌาปนกิจ น้องชัย อายุ 11 ปี น้องคนเล็ก ซึ่งเป็นอีกครอบครัวเครือญาติกันทั้งหมด ซึ่งมีบ้านติดกัน

น้าสาวเจ้าของบ้านเด็กทั้ง 3 ราย ถูกไฟช็อต เผยว่า ตนเองเลี้ยงทั้ง 3 คน มาตั้งแต่เล็ก แล้วเคยเตือนเรื่องการเล่นไฟมาตลอด แต่วันเกิดเหตุตนเองได้ไปธุระนอกบ้านปล่อยให้ทั้ง 3 คน อยู่ตามลำพัง ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาก่อน และไฟตนเองได้ซื้อเครื่องตัดไฟโดยคนขายบอกว่าหากเกิดปัญหาไฟจะตัด  แต่ก็ไม่ทราบว่าทำไม สวิชท์ตัดไฟถึงไม่ทำงาน และก็ไม่ทราบว่าทั้ง 3 ต่อไฟมาเพื่ออะไร เพราะเขาจะนอนและเล่นอยู่ในซุ้มจุดใต้ต้นลำไยทุกวัน เพราะช่วงนี้ปิดเทอม โดยในช่วงเกิดเหตุมีหลานอีกคนอายุประมาณ 5 ขวบ วิ่งไปแจ้งกับเพื่อนบ้าน แต่ด้วยการพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง รออยู่นานกว่าจะมาถึงแล้วพบว่าเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้น และฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ผู้ปกครองอย่าปล่อยให้เด็กเล่นไฟ ไม่เช่นนั้นจะเหมือนกับหลานของตนทั้ง 3 รายนี้

ส่วนพ่อแม่ของเด็กทั้ง 3 ราย ทั้ง 2 ครอบครัว ประกอบด้วย นายถนอม ใจบุญ นางสาวลำพันธ์ หึงขุนทด พ่อแม่ของ ด.ช. ธนชัย ใจบุญ นายอาคมใจบุญ นางสาวยุ้ย พ่อแม่ของ ด.ช.อานนท์ ใจบุญ กับ ด.ญ. ปาริชาติ ใจบุญ ยังอยู่ในอาการช็อกด้วยความเศร้าโศก นั่งน้ำตาไหลรำพึงรำพันเพ้ออยู่ตลอดเวลาว่าไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นโดยมีญาติๆ นั่งเฝ้าอยู่ใกล้ชิด ซึ่งทั้ง 2 คน ต้องออกมาอยู่นอกศาลาตั้งศพ เพราะยังทำใจไม่ได้ โดยแม่ของน้องนนท์กับน้องปลา ซึ่งเป็นพี่น้องกัน ได้กล่าวว่า จะตั้งศพสวดจำนวน 6 คืน แล้วทำการฌาปนกิจ โดยจะแบ่งทำการฌาปนกิจกันคนละวัน ไม่สามารถฌาปนกิจวันเดียวกันได้ ตามที่ผู้ใหญ่ได้แจ้งมาเช่นนี้  และการเสียชีวิตทั้ง 3 คน ยังไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร เพราะช่วงเกิดเหตุไม่มีผู้ใหญ่อยู่ในที่เกิดเหตุออกไปประกอบอาชีพหาของป่ากันหมด

สำหรับเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ผู้ที่ได้รับการติดต่อแจ้งเหตุให้เข้าไปช่วย เมื่อไปยังที่เกิดเหตุได้ทำการปั้มหัวใจแต่เด็กแน่นิ่งจึงประสานไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง ทั้งโรงพยาบาลสมเด็จพระปิยะมหาราชรมณียเขต และโรงพยาบาลไทรโยค นำเด็กทั้ง 3 คน ไปช่วยเหลือที่โรงพยาบาล แต่สุดท้ายไม่สามารถช่วยเด็กทั้ง 3 คน ไว้ได้ เนื่องจากช่วงเกิดเหตุก่อนจะทราบนานเกินประกอบกับไฟฟ้าติดตลอดจนฝ่ามือของเด็กทั้ง 3 คน ไหม้เกรียม เบื้องต้นคาดว่าทั้ง 3 คน น่าจะมีคนใดคนหนึ่งไปต่อสายไฟ โดยขึงไปผูกกับสายลวดแล้วล้อมไปกับต้นลำไย ช่วงนั้นคงจะไปเสียบกับปลั๊ก 3 ทาง ซึ่งอยู่ใกล้กัน แล้วคนใดคนหนึ่งอาจจะไปถูกเส้นลวดจนไฟช็อต แล้วอีก 2 ราย น่าจะเข้าไปช่วยด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กจึงถูกไฟช็อตตามไปด้วยทำให้เสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ กล่าวว่าทั้ง 3 คน  ก็เป็นหลานตนเองด้วยเช่นกัน เสียใจมากที่ไม่สามารถช่วยหลานทั้ง 3 คน ได้ พร้อมขอฝากไว้เป็นอุทาหรณ์อย่าปล่อยให้เด็กเล่นไฟ เพราะช่วงนี้เด็กจะอยู่ระหว่างช่วงปิดเทอมด้วย