เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ชาวบ้านแฉประวัติ "หลวงปู่เดือนชัย" เคยบวชแล้วสึกมานับ 8 ครั้ง


18 มิ.ย. 2563, 13:28



ชาวบ้านแฉประวัติ "หลวงปู่เดือนชัย" เคยบวชแล้วสึกมานับ 8 ครั้ง




วันนี้ (18 มิ.ย.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจาก คณะสงฆ์จังหวัดมุกดาหาร (ธรรมยุต) มีคำสั่ง ให้พระเดือนชัย ธมมวิจโย หรือหลวงปู่เดือนชัย สังกัดวัดป่าศรัทธาธรรม (ถ้ำหีบ) ต.คำป่าหลาย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ที่ได้พำนักอยู่ที่ ที่พักสงฆ์ถ้ำจารย์ครูภูหินด่าง อ.หนองสูงใต้ อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร ออกจากพื้นที่จ.มุกดาหาร ทันที เนื่องจากมีข้อกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมแก่สมณเพศ แสดงตนสื่อทางวิญญาณ โฆษณาตนเองผ่านสื่อต่าง ๆ ผิดธรรมวินัย และกฎระเบียบคำสั่งของมหาเถรสมาคม และเจ้าคณะในท้องที่ได้เตือนแล้วแต่ไม่เป็นผล และหลวงปู่เดือนชัยเริ่มเป็นที่รู้จักของชาวบ้านหลังจากการออกมาช่วยเหลือคดี “น้องชมพู่” เสียชีวิต และในครั้งนั้นหลวงปู่เดือนชัยได้เขียนเลขปริศนาธรรมเหมือนใบ้หวย มีผู้นำไปตีเป็นเลขเด็ดถูกหวยกันเป็นจำนวนมาก

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่บ้านเหล่าหลวง ต.วังทอง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นโยมพ่อและโยมแม่ของหลวงปู่เดือนชัยหลังจากมีข่าวหลวงปู่เดือนชัยอาจจะกลับมาอยู่สำนักสงฆ์ของตนเองที่กำลังสร้างอยู่ขณะนี้ ปรากฏว่าว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ทราบข่าวเรื่องของหลวงปู่เดือนชัยแล้ว โดยชาวบ้านบ้านเหล่าหลวงบอกว่าชาวบ้านไม่ได้สุงสิงกับพระวัดรูปนี้เพราะปกติหลวงปู่มาก็จะมาอยู่สำนักสงฆ์ของตนเอง ไม่ออกมาบิณฑบาตรและไม่มีชาวบ้านไปถวายอาหารเพล ชาวบ้านรายหนึ่งบอกว่า หลวงปุ่เดือนชัยเป็นคนที่บ้านเหล่าหลวงแห่งนี้แหละ มีแม่ยังอยู่และน้องชายส่วนพ่อเสียชีวิตนานแล้ว  แต่หลวงปู่ไม่ค่อยอยู่บ้านเห็นไปๆ มาๆ เห็นกำลังสร้างสำนักสงฆ์อยู่ที่สวนยางพาราที่พ่อและแม่มอบให้ ส่วนใหญ่คนที่บ้านแห่งนี้จะไม่ค่อยได้ไปสุงสิงหรือไปยุ่งเกี่ยวกับหลวงปู่ เพราะชาวบ้านเห็นว่าไม่เป็นวัด เห็นมีแต่คนต่างถิ่นจะเยอะสุดเห็นเป็นคนจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่ส่วนใหญ่มาขอหวยขอเบอร์คงเคยถูกจากหลวงปู่จึงตามมา หวยไม่เคยบอกชาวบ้าน บอกแต่ทางอื่นแม้จะบอกชาวบ้านไม่มีใครซื้อถูกเลย ส่วนชาวบ้านได้ยินข่าวว่าทำพิธีตามหาคนร้ายฆ่าน้องชมพู่อยู่ แต่ชาวบ้านเฉยๆ ธรรมดามากกับหลวงปู่เดือนชัยเพราะเป็นคนที่นี่หลายคนรู้นิสัยหลวงปุ่เป็นอย่างดี

 



ส่วนนายบุญทอม  เปิดเผยว่า เป็นเพื่อนสนิทหลวงปู่เดือนชัยสมัยยังไม่บวช เรียนประถมมาด้วยกัน หลังจากนั้นก็มาบวช สมัยเป็นคนธรรมดา เป็นคนขี้เหลา มักม่วน แต่ไม่ใช่อันธพาล การบวชนั้นนับครั้งไม่ได้เพราะหลวงปู่เดือนชัยจะบวชแล้วจะสึกอยู่อย่างนี้ประจำ หลวงปู่เคยบอกให้ฟังว่าถ้าสึกออกมาเป็นโยมจะไม่มีเงิน แต่หากบวชเป็นพระจะมีเงิน แต่ไม่ค่อยอยู่บ้านไปๆ มาๆ ส่วนเรื่องใบ้หวยเคยไปหาหวยกับหลวงปู่ แต่ไม่เคยถูกสักครั้งเดียว ส่วนจะมาอยู่บ้านที่สำนักสงฆ์ที่กำลังสร้างก็แล้วแต่ ชาวบ้านคงไม่ห้าม เพราะชาวบ้านไม่เกี่ยว ตนเองเคยถามหลวงปุ่มาอยู่นี่การกินการกินอย่างไร หลวงปุ่เคยบอกว่าการกินการอยู่ของเฮาไม่ยาก กินทางไลน์ส่งข้อความก็มีคนมาส่งให้ ส่วนเรื่องอิทธิฤทธิ์ปฏิหาริย์ไม่เคยเจอ เจอแต่ทำอิทธิฤทธิ์ทำร้ายข้าวของพังบ้านของน้องชาย สงสัยหลวงปู่โกรธ เคยแต่ปาฏิหาริย์แบบนี้ เพื่อนสนิทหลวงปุ่เดือนชัยกล่าวตอนท้าย

 

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าไปดูบริเวณสวนยางพาราที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่โดยเป็นของหลวงปู่เดือนชัยที่แม่ยกที่ดินให้กำลังมีการก่อสร้างสำนักสงฆ์ มีการถมดินเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่และ มีการก่อสร้างกุฏิชั้นเดียวคล้ายทรงโมเดิร์น แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ข้างกำแพงกุฏิมีการลงยันต์อักขระข้างในเป็นรูปหัวใจติดปีก  คาดว่าเป็นยันต์ที่หลวงปู่เขียนเอาไว้ข้างกำแพงกุฏิแห่งนี้ ห่างจากกุฏิไปด้านหลังประมาณ 40 เมตรมีการก่อสร้างห้องน้ำเอาไว้จำนวน 2 หลัง โดยชาวบ้านที่พาผู้สื่อข่าวสำรวจพื้นที่สำนักสงฆ์บอกว่า หากหลวงปุ่กับมาที่บ้านก็จะพักอยุ่ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้มาแค่วันสองวันก็จะกลับโดยมีลูกศิษย์ติดตามมาด้วย


ทางด้านนายประเสริฐ กำนันตำบลวังทอง เปิดเผยว่า ติดตามข่าวของหลวงปู่เดือนชัยมาตลอด เพราะเป็นบ้านเดียวกันและโตมาด้วยกันและรุ่นราวคราวเดียวกันรู้จักสนิทกันมาตั้งแต่สมัยพ่อของหลวงปู่ แต่เห็นไปอวดอิทธิฤทธิ์ปฏิหาริย์ อุตตริใบ้หวย ตนเห็นว่าไม่เหมาะสม ส่วนใหญ่ชาวบ้านที่บ้านแห่งนี้จะเฉยๆกับหลวงปู่ไม่ค่อยไปยุ่งเกี่ยวเท่าไร เพราะชาวบ้านจะรู้นิสัยของหลวงปุ่เดือนชัยเป็นอย่างดีเคยบวชมาแล้วหลายครั้ง บวชแล้วก็สึก พอสึกออกมาแล้วก็ไปบวชใหม่เป็นอย่างนี้ประจำและชอบเรื่องเครื่องรางของขลังและใบ้หวย หลังจากมาถมที่ดินจะสร้างสำนักสงฆ์ก็เกิดปัญหานิดนึงเพราะมีนายหน้าผุ้รับเหมาถมดินมาปรึกษาตนอยากให้เคลียร์เรื่องเงินถมดินจำนวน 100,000 บาทเศษ ที่หลวงปู่จ้างผู้รับเหมามาถมดินแต่ยังไม่จ่ายเงินเค้า ตนก็ไปพูดคุยกับหลวงปู่เดือนชัยสุดท้ายตกลงกันได้โดยหลวงปู่ยอมจ่ายเป็นงวด ส่วนเรื่องที่หลวงปุ่มาอยู่สำนักสงฆ์ที่บ้านเหล่าหลวง ก็มาอยู่ได้เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่จริงๆ แล้วเป็นพระเป็นเจ้าต้องอยู่ในศีลที่มีข้อปฏิบัติอยู่ ต้องรักษาศีลให้ได้ ในการไปใบ้หวยแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์นั้น ตนเองถือว่าไม่เหมาะสม กำนันต.วังทองกล่าวย้ำว่า ถ้าหลวงปู่มาอยู่นี่ไม่รบกวนชาวบ้านก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามาแล้วทำความเดือดร้อนรำคาญให้ชาวบ้าน คิดว่าชาวบ้านคงไม่ยอมแน่นอน






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.