"อนุทิน" คาดอีก 9 เดือน ได้วัคซีนโควิด-19 ชนิดดีเอ็นเอฉีดให้คนไทย
25 มิ.ย. 2563, 19:20
วันนี้ ( 25 มิ.ย.63 ) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมนายแพทย์โอกาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นายแพทย์ศุภโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และนายแพทย์นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ประชุมหารือร่วมกับนายวิฑูรย์ วงศ์หาญกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ไบโอเนท-เอเชีย จำกัดและ ดร.ฟาม ฮอง ไทย กรรมการผู้จัดการร่วม เพื่อรับฟังความคืบหน้าการวิจัยและผลิตวัคซีนโควิด 19 ชนิดดีเอ็นเอ
นายอนุทิน เปิดเผยภายหลังการหารือว่า เป็นเรื่องน่ายินดีมากที่ทางบริษัท ไบโอเนท-เอเชีย จำกัด ในฐานะภาคเอกชนไทย มีความคืบหน้าเรื่องการทดลองวัคซีนโควิด 19 ชนิดดีเอ็นเอ ผ่านการทดลองในสัตว์ทดลองพบว่ามีความปลอดภัยและสร้างภูมิคุ้มกันในหนูได้ พร้อมทั้งส่งผลเลือดหนูทดลองให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทดสอบประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันโรค เพื่อเตรียมยื่นเรื่องพิจารณาความปลอดภัยในการขอวิจัยในคนอย่างเร่งด่วนในระยะที่หนึ่งต่อทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งจะข้ามการทดลองในสัตว์ระยะที่ 2 โดยทาง อย.จะพิจารณาเทียบความปลอดภัยจากงานวิจัยอ้างอิง ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วบนพื้นฐานความปลอดภัยตามขั้นตอนที่กำหนด รวมทั้งการพิจารณาจริยธรรมการวิจัยในคน หากทุกขั้นตอนเป็นไปด้วยดีไม่มีอุปสรรค คาดว่าอีก 9 เดือนจากนี้ จะสามารถผลิตวัคซีนฉีดให้กับประชาชนไทยได้
นายอนุทิน ยังกล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขเห็นความสำคัญและมีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่ง ที่จะให้การสนับสนุนการค้นคว้าวิจัยวัคซีนโควิด 19 เพื่อสร้างความมั่นคงทางสาธารณสุขให้ประเทศไทยสามารถพึ่งพาตนเองและดูแลประชาชนชาวไทยได้ ขณะนี้ได้จัดสรรงบจาก พ.ร.ก.เงินกู้ ให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ 3,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนและร่วมค้นคว้าวิจัยวัคซีนโรคโควิด 19 กับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งรัฐและเอกชน ขอยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขจะสนับสนุนการผลิตวัคซีนโควิด 19 ให้สำเร็จให้ได้
ขณะที่นายวิฑูรย์ กล่าวว่า บริษัท ไบโอเนท-เอเชีย จำกัด มีความเชี่ยวชาญการผลิตวัคซีน มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีการวิจัยและผลิตวัคซีนหลายชนิดจนเป็นที่ยอมรับระดับโลก อาทิ วัคซีนไอกรนชนิดไร้เซลล์เชื้อ ซึ่งองค์การอนามัยโลกให้การรับรอง สำหรับการพัฒนาวัคซีนโควิด 19 ชนิดดีเอ็นเอ ได้ร่วมมือกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ในการดำเนินงานในขั้นตอนศึกษาวิจัยมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ยืนยันว่าหากทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดโดยไม่มีอุปสรรค จะสามารถเริ่มการวิจัยในมนุษย์ระยะแรกได้ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมหรือต้นเดือนสิงหาคม 2563 และจะสามารถผลิตวัคซีนโควิด 19 ในเชิงอุตสาหกรรมได้ในราวต้นปี 2564