กาญจนบุรี เป็นเวลา 22 วัน การจากไปของ “น้องดาว” พ่อยังอยู่ในอาการเหม่อลอยจากการคิดถึงลูก “คำแรกที่พ่อมานพพูดลูกใครใครก็รัก จะดีเลวก็ลูกเรา” ตนเองไม่ได้ขายลูกกิน ก่อนบอกว่าได้เรียกค่าสินไหมไป แต่ทางฝ่ายญาติ นายพงษ์พัฒน์ กลุ่มจัดปาร์ตี้ บอกสู้ไม่ไหว มีอะไรมาพูดคุยกันได้ แต่ไม่มาพูดคุยกัน หากเป็นเช่นนี้ตนเองก็ต้องปล่อยเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ดำเนินการไป เพราะตนเองไม่มีเงินไปจ้างทนายไปฟ้อง

วันนี้ ( 28 มิ.ย. 2563 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ได้เดินทางไปยังบ้านของน้องดาว พบ นายมานพ เหลืองต้นตระกูล กับนางตุ๊ก ไม่มีนามสกุล พ่อและแม่ ของ นางสาวณัฐตินี เหลืองต้นตระกูล หรือ น้องดาว อายุ 18 ปี อดีตนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนดังแห่งหนึ่งของ จ.กาญจนบุรี โดยสภาพของ นายมานพ นั่งอยู่ในต้นมะขามเพียงคนเดียว ด้วยอาการที่เหม่อลอย สีหน้าเคร่งเครียดคาดว่าคงจะคิดถึง น้องดาว เมื่อเห็นสื่อลงไปเจ้าตัวถึงกับสะดุ้งเปลี่ยนอาการให้เห็นชัดเจนว่ากำลังนั่งคิดถึงลูกสาวที่จากไป

ผู้สื่อข่าวได้นั่งสนทนาอยู่ด้วย นายมานพ พ่อน้องดาว บอกว่าครอบครัวตนเองไม่ใช่คนมีฐานะ ต้องหาเช้ากินค่ำ ช่วงน้องดาวเข้าเรียนชั้นมัธยม พ่อกับแม่ ต้องทำงานหนักมากเพื่อหาเงินมาส่งน้องดาวมีค่าใช้จ่ายมากมาย จนเทอมปลาย น้องดาวเกือบเรียนไม่จบ ม. 6 เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูงมาก น้องดาว เป็นเด็กขยันช่วยงานกิจกรรมของโรงเรียน รวมถึงเพื่อนๆ รวมถึงชาวบ้านมีงานอะไร น้องดาว ก็จะไปช่วยชาวบ้านทำครัว ล้างชาม โดยเฉพาะงานบวชจะเป็นนางรำหน้านาคตลอด จึงเป็นที่รักของเพื่อนๆ และชาวบ้าน

จากการที่ น้องดาว ได้ร่วมกิจกรรมของโรงเรียน ทางโรงเรียนจึงได้มีเงินพิเศษให้กับ น้องดาว มาช่วยจุลเจือครอบครัวได้อีกทางหนึ่ง น้องดาวจึงสามารถเรียนจนจบ ม. 6 แล้วกำลังจะไปเรียนต่อในสายอาชีพ ในช่วงเปิดเทอมนี้ นายมานพ บอกด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดมีน้ำตาคลอ ว่าไม่คิดว่าครอบครัวตนเองจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้

นายมานพ  พ่อน้องดาว บอกว่า น้องดาว เป็นคนแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว หากมีตนเองต้องทราบ ต้องพาไปรักษา แต่นี่น้องดาว ไม่มีอาการอะไรร่าเริงปกติ บอกช่วงเรียนมัธยมต้องดูแลเขาหนักมาก ค่าใช้จ่ายสูงช่วงน้องดาวเข้าเรียนชั้นมัธยม พ่อกับแม่ มีอาชีพรับจ้างรายวันไม่ทำก็ไม่ได้เงิน ต้องทำงานหนักมากเพื่อหาเงินมาส่งน้องดาว ที่มีค่าใช้จ่ายมากมาย จนเทอมปลาย น้องดาวเกือบเรียนไม่จบ ม.6 เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูงมาก

หลังจากเสร็จงานศพ น้องดาว ได้มีทางญาติฝ่าย นายพงษ์พัฒน์ นักเพียร ไป (จำนวน 800,000 บาท) เขาบอกว่าไม่สู้ไม่ไหว และบอกว่าจะเขามาคุย หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับคำตอบหายไปเลย คนเรามีอะไรก็คุยกันได้แต่ไม่เข้ามาเลย ตนเองก็คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ไป  จะให้ตนเองไปหาทนายไปฟ้องร้องเอาตนเองจะไปหาเงินที่ไหน ครอบครัวหาเช้ากินค่ำยังมี ลูกชายอายุ 13 ปี น้องของดาว อีกคนกำลังเรียนเราก็ต้องดูแลเขาต่อไป

ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าม่วง ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดกาญจนบุรี โดยเฉพาะ  พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภาค 7 ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สุพัฒน์ เชยชิด ผทค.พิเศษ ตร.ปฎิบัติหน้าที่ ภ.7 เป็นหัวหน้าคณะลงมาดูแลเรื่องนี้ด้วยตนเอง แล้วได้ให้เจ้าหน้าที่ไปรับตนเองเข้าไปพูดคุยในห้องประชุม พร้อมบอกว่าเจ้าหน้าที่จะดูแลเรื่องนี้ให้ได้รับความเป็นธรรม และยังมี นาบอัจฉริยะ  เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าร่วมประชุมด้วย และได้ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ให้บอกว่าหากมีปัญหาใดให้ติดต่อมา นายมานพ เหลืองต้นตระกูล พ่อ น้องดาว ได้ฝากขอบคุณทุกหน่วยงานที่ช่วยดูแล น้องดาว ผ่านสื่อมาในครั้งนี้ด้วย