โดน 4 ข้อหาหนักหนุ่มใหญ่คลั่งไล่ฟันตร.และชาวบ้านบาดเจ็บ
1 ก.ค. 2563, 16:00
วันนี้ (1 ก.ค.63) ผู้สื่อข่าวจ.อุดรธานีรายความคืบหน้าจากกรณีนายพุทธรักษ์ ภูมิศรีแก้ว อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่กระท่อมนาจุดเกิดเหตุที่อยู่ด้านหลังบ้านของนายทวีศักดิ์ สายวงศ์ ซึ่งเป็นหลานของผู้ก่อเหตุอีกครั้ง โดยญาติๆ พากันโล่งอกหลังจากเจ้าหน้าที่ฯ ได้คุมตัวนายพุทธรักษ์ หรือ นายเคนไปแล้ว แต่ก็พากันรู้สึกสงสารเพราะเป็นญาติๆ กันแต่ก็ต้องจำยอม โดยเช้าวันนี้ ร.ต.ท.ประชัน ไชยเสนา รองสวป.สภ.หนองหาน และ นายพงศ์เทพ สิทธิพรหม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลบ้านเชียง เดินทางเข้าไปให้กำลังใจญาติๆ ของผู้ก่อเหตุอีกครั้ง และพาผู้สื่อข่าวดูที่เกิดเหตุพบว่าภายในกระท่อมนาที่นายพุทธรักษ์ใช้เป็นที่พักผ่อนมีร่องรอยของอุปกรณ์การเสพยาบ้ายังหลงเหลืออยู่ สำหรับกระท่อมนาหลังนี้ญาติๆ ได้สร้างเอาไว้ให้นายพุทธรักษ์อยู่ตามลำพังเพราะเห็นว่าหย่าภรรยาไปแล้ว
จากนั้นเดินทางไปจุดบริเวณที่เจ้าหน้าที่ล้อมจับเป็นที่นาที่กำลังปลูกข้าวห่างจากกระท่อมนาของนายพุทธรักษ์ประมาณ 40 เมตรมีร่องรอยของต้นข้าวล้มอยู่เป็นหย่อมๆ โดยร.ต.ท.ประชัน ไชยเสนา รองสวป.สภ.หนองหาน และ นายพงศ์เทพ สิทธิพรหม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลบ้านเชียง ร่วมกันเปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งจากญาติให้มานำตัวนายพุทธรักษ์ไปรักษาตัวเพราะมีอาการเสียสติบ้าคลั่งทำร้ายข้าวของภายในบ้าน พวกตนมาแล้วดูแล้วไม่ท่าจะเอาอยู่จึงได้เรียกกำลังเสริม ต่อมา ร.ต.อ.ธีรพงษ์ เจริญธรรม รองสวป.นำกำลังมาเพื่อช่วยกันจับกุมเกลี้ยกล่อมอยู่หลายชั่วโมงนายเคนก็ไม่ยอมวางมีดที่ถืออยู่ในมือจึงได้ชาร์ทเข้าจับกุม 9 ต่อ 1 แทบจับเอาตัวไม่ได้เพราะมีมีดอยู่ในตัวแต่ตร.ก็ได้รับบาดเจ็บและชาวบ้านรวม 3 ราย
นายพงษ์เทพ สิทธิพรม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 เปิดเผยว่าอีกว่า ช่วงชุลมุนล้อมจับนั้นนายเคนถือมีดอยู่ในมือ ทุกคนก็ช่วยกันจับนายพุทธรักษ์ให้ได้ แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ถูกคมมีด 2 นายและชาวบ้านอีก 1 ส่วน ด.ต.ไพโรจน์ที่ฟันไม่เข้าตนก็เชื่อว่ามีของดี เห็นว่าห้อยหลวงปู่ทวด แต่อันนี้แล้วแต่ควรเชื่อบุคคล
ส่วนนายทวีศักดิ์สายวงศ์ ซึ่งเป็นหลานชายของนายพุทธรักษ์ เปิดเผยว่า เหตุผลที่ทำให้ในพุทธรักษ์ บ้าคลั่งสะสมมาตั้งแต่หย่ากับเมียเมื่อหลายปีแล้วจากนั้นก็เริ่มเสพยาเสพติดจนประสาทหลอนและบางครั้งบ้าคลั่งอาละวาดไปทั่วไม่รู้จักคนไหนเป็นญาติ พากันทนไม่ไหวกันแล้วจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ มารับตัวเพื่อไปทำการรักษาแต่ก็เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมีดเล่มนี้ เป็นของนายพุทธรักษ์ ตนได้แอบเอามาซ่อนไว้คมกริบเหมือนกัน สงสารแกเหมือนกันแต่ก็ทำไม่ได้ไม่งั้นก็จะเกิดเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายอีก ก็ปล่อยไปตามกระบวนการ ส่วนที่ตำรวจฟันไม่เข้า ตนเชื่อว่ามีของปกปักรักษาบารมีของหลวงปู่ทวดแน่นอน นายพนมพร จุ๋มเจษ หลานชายอีกคนบอกว่า กระต๊อบน้อยหลังนี้ ญาติพี่น้องสร้างไว้ให้นายพุทธรักษ์อยู่ ตอนกลางวัน จะมานอนที่นี่ ส่วนกลางคืน จะไปนอนที่บ้านอีกหลัง ญาติพี่น้องก็กลัว เพราะบ้าคลั่งทำร้ายข้าวของอยู่ประจำ จึงได้บอกให้เจ้าหน้าที่มารับตัวไปรักษาให้ และเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ตอนนี้รู้สึกโล่งอก ที่นายพุทธลักษณ์ถูกตำรวจจับกุมตัวไป แต่ก็สงสารอยู่เพราะเป็นญาติกัน
นางปรานี จูมเจตน์ พี่สาวของนายพุทธรักษ์ บอกว่า นายเคนเป็นน้องคนที่ 3 แต่ก่อนเขาไม่เป็นแบบนี้เป็นคนขยันขันแข็ง แบกจอบลงทุ่งนาตั้งแต่เช้าเย็นค่อยกลับมา แต่มาเสียคนแต่หย่ากับเมีย เพราะตอนนั้นเขาบวชอยู่แต่เมียที่จ.บึงกาฬบอกจะไปเกาหลีเลยสึกออกมาไม่นานก็หย่ากัน พอหย่ากันเหมือนเป็นบ้าเลย ญาติก็ให้กลับมาอยู่บ้าน จากนั้นก็หลอนเป็นบ้าเพราะยาบ้าเลย พอแกเมายาอาละวาดหลานๆ ผู้หญิงก็พากันกลัวไม่มีใครก็อยู่ ก็เลยปรึกษากันขอให้เจ้าหน้าที่พาไปส่งรพ.จิตเวชที่จ.เลยด้วย แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์เมื่อวานนี้ แต่ก็โล่งอกที่ตร.เอาตัวไปแล้ว แต่ถ้ากลับออกมาอีกมาอาละวาดญาติๆ คงพากันโสถิ่มไม่เอาอีกแล้ว นี่หละเป็นอุทาหรณ์เรื่องยาเสพติดใครมีลูกหลานหรือญาติก็ระวังและดูแลกันให้ดี อย่าให้ไปติดโดยเด็ดขาด ยายปรานีกล่าวตอนท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า อาการบาดเจ็บของตำรวจ 2 นาย ปลอดภัยดีแล้วส่วนชาวบ้านอีกคน ก็ปลอดภัย กลับบ้านที่บึงกาฬเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องคดี ขณะนี้ พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.หนองหานเปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา 4 ข้อหา หนัก คือ 1.พยายามฆ่า 2.พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน 3. ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ฯ 4.เสพยาสพติด/////////////