เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ชุดคอมมานโด กรมราชทัณฑ์ คุ้มกันแน่น "บังฟัต" และพวก ไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 8 นครฯ ฟังคำพิพากษา


12 ก.ค. 2562, 19:32



ชุดคอมมานโด กรมราชทัณฑ์ คุ้มกันแน่น "บังฟัต" และพวก ไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 8 นครฯ ฟังคำพิพากษา




ศาลอุทธรณ์ภาค 8 อ่านคำพิพากษาอุทธรณ์ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ประหารชีวิต ” บังฟัต ” จำเลยที่ 1 - 6 ระบุเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ทำเอา "บังฟัต" คอตก ส่วนญาติๆ ไร้เงามาฟังคำพิพากษาแม้คนเดียว ขณะที่คอมมานโดกรมราชทัณฑ์พร้อมอาวุธปืนครบมือ คุ้มกันแน่นหนาตลอดเส้นทางจากเรือนจำกลางมายังศาลเมืองคอน

 

 



จากกรณีคดีนายซูริก์ฟัต หรือ "บังฟัต" บ้านนบวงศ์สกุล อายุ 41 ปี พร้อมพวก รวม 8 คน ร่วมกันก่อเหตุสังหารโหด นายวรยุทธ หรือ ผู้ใหญ่บัติ สังหลัง อายุ 46 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมครอบครัวและญาติๆ รวม 8 ศพ ที่บ้านเลขที่ 14/3 หมู่ 1 ต.บ้านกลาง โดยคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 10 ก.ค.60 โดยนายซูริก์ฟัต หรือ บังฟัต พร้อมพวกรวม 8 คน แต่งกายชุดคล้ายทหาร บุกเข้าจับตัว นายวรยุทธ สังหลัง และคนในครอบครัว ญาติ ๆ รวม 11 คน ไว้ตามห้องต่างๆ ในบ้านพัก จากนั้นใช้อาวุธปืนของ นายวรยุทธ จ่อยิงศีรษะทีละคน แต่มีผู้รอดชีวิต 3 คน สาเหตุเกิดจากความยัดแย้งเรื่องโฉนดที่ดิน ที่พ่อตา นายวรยุทธ นำไปจำนองกับ นายซูริก์ฟัต กระทั่งมีการผ่อนชำระหมด แต่นายซูริก์ฟัต นำที่ดินไปจำนองไว้กับทางธนาคาร ไม่สามารถนำหลักฐานที่ดินกลับมาคืนให้ได้ จนมีการทวงถามกันหลายครั้งและกลายเป็นความขัดแย้ง นายซูริก์ฟัต จึงวางแผนก่อเหตุ โดยจัดฉากว่า นายวรยุทธ เครียดเรื่องหนี้สินก่อเหตุฆ่าคนในครอบครัว และฆ่าตัวตายตาม

ต่อมาศาลชั้นต้น ตัดสินคดีเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 61 โดยพิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 1 - 6 ประกอบด้วย นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์กุล หรือ บังฟัต อายุ 41 ปี 2.นายคมสรรค์ เวียงนนท์ (ม่อน) อายุ 36 ปี 3.นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ (เลาะห์) อายุ 30 ปี. 4.นายอรุณ ทองคำ (กี้ร์) อายุ 29 ปี 5.นายประจักษ์ บุญทอย (จักร์) อายุ 36 ปี 6.นายธนชัย จำนอง (โกบ) อายุ 41 ปี ส่วนจำเลยที่ 7 นายธวัฒชัย บุญคง (ชัย) อายุ 37 ปี พิพากษาจำคุก 1 ปี 9 เดือน และ จำเลยที่ 8 น.ส.ชลิดา สังข์โชติ อายุ 41 ปี ภรรยานายชูริก์ฟัต ถูกตัดสินจำคุก 12 เดือน ซึ่งจำเลยที่ 7 กับ 8 รับโทษครบตามกำหนดแล้ว ฝ่ายจำเลยที่ 1-6 ได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน ส่วนพนักอัยการ จ.กระบี่ และทนายฝ่ายโจทย์ยื่นอุทธรณ์

 

 

วันนี้ (12 ก.ค. 62) เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 - 6 ที่ห้องบัลลังค์เวรชี้ ชั้น 2 ของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เนื่องจากจำเลยที่ 1 - 6 ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ต.นาพรุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยเมื่อเวลา 08.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวจำเลย 1 - 6 ออกจากแดน 6/2 ขึ้นรถผู้ต้องขังเรือนจำออกเดินทางไปยังศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ท่ามกลางกำลังคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ชุดคอมมานโด กรมราชทัณฑ์ จำนวน 5 นาย พร้อมอาวุธปืนครบมือประกบหน้าประกบหลังรถของเรือนจำที่มี นายซูริก์ฟัต จำเลยที่ 1 - 6 นั่งอยู่ในรถคันดังกล่าวตลอดระยะทาง เมื่อมาถึงศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช รถของเรือนจำได้เลี้ยวนำจำเลยที่ 1 - 6 เข้าไปกักขังใต้ถุนศาล เพื่อรอฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

กระทั่งเวลา 09.00 น. (12 ก.ค. 62) ที่ห้องบัลลังค์เวรชี้ ชั้น 2 ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ออกนั่งบัลลังค์เพื่ออ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 คดีหมายเลขดำที่ 4396/2560 คดีหมายเลขแดงที่ 1380/2561 ในคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดกระบี่ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายซูริก์ฟัต จำเลยที่ 1 - จำเลยที่ 6 ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันพยายามฆ่า โดยศาลอุทธรณ์ได้ใช้เวลาอ่านคำพิพากษานานประมาณ 2 ชั่วโมง เสร็จสิ้นเมื่อเวลา 11.10 น. พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 1,2,3,4,5,6 โดยศาลให้ความเห็นว่า การกระทำของจำเลยทั้ง 6 เป็นการกระทำที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง และเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่น และให้จำเลยทั้ง 6 จ่ายชดใช้ค่าเสียหายให้ญาติผู้เสียชีวิตทุกคนด้วย โดยแต่ละคนไม่เท่ากัน ตั้งแต่วงเงิน 4 แสนบาทจนถึง 2 ล้านบาท ไม่เท่ากันแล้วแต่กรณีของผู้เสียหายแต่ละคน







Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.