"เก้า เกริกพล" ชี้แจงดราม่า "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" แฉออกรายการได้แค่ 500 บาท
30 ก.ค. 2563, 17:12
จากกรณี "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" เจ้าของค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่น ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องโกงเงินค่าตัวนักร้องหนุ่ม "เก้า เกริกพล เพชรรัตน์" ที่ร่วมกันฟีเจอร์ริ่งเพลงดัง "เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว" อ่านข่าวก่อนหน้านี้ >> "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" โต้ปมโกงเงินนักร้องหนุ่ม โชว์แชทคุยแบบชัดๆ
ล่าสุดเมื่อคืนวานนี้ (29 ก.ค.63) เก้า เกริกพล ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กโดยสวนกลับดราม่าว่า ตนไม่ชอบมากๆ ในเรื่องที่พ่อโดนโจมตี ยืนยันว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงสักนิด จุดเริ่มต้นพี่เจนนี่ได้มาขอฟีเจอร์ริ่งเพลงประมาณ 2 รอบ แต่ตนไม่ได้ไป ต่อมาไปออกรายการนึงและมีโอกาสสนิทกับเจนนี่ นับเป็นพี่น้อง จึงร่วมกันฟีเจอร์ริ่งเพลง
ยอมรับว่า 1 หมื่นบาทที่เจนนี่โอนให้เป็นเรื่องจริง แต่พี่บอกว่าเป็นค่ารถค่าขนม ตอนไปอัดเสียงร้อง หลังจากนั้นก็ได้มาเจอกันที่พัทลุง ตน แม่ และเจนนี่ ทราบดีว่าพูดตกลงอะไรกันบ้าง ทางเจนนี่ได้บอกว่าจะไม่เอาเปรียบกันเพราะเคยโดนมาก่อน จะดูแลค่าใช้จ่ายทุกอย่าง
ส่วนเงิน 1 หมื่นบาท เจนนี่บอกว่าไว้ให้กินขนม ส่วนวันไปถ่ายเอ็มวีค่อยว่ากันอีกที จนถึงวันถ่ายเอ็มวี เขาสั่งเสื้อผ้าที่ใช้ถ่ายมาประมาณ 6 พันบาท ซึ่งก็ใช้เงินที่ได้จาก 1 หมื่นไปซื้อ รวมถึงที่พัก ค่ากิน ทั้งหมดเป็นคนจ่ายเอง และต้องควักอีก 2 พันไปอีก
เรื่องส่วนแบ่ง 70/30 เขาพูดจริง และไปคุยกับแม่ของตนว่าจะแบ่งค่ายูทูบคุยกันหลังจากอัดเสียงร้องเสร็จ และรอจะไปถ่ายเอ็มวี ตอนนั้นตนไปกับพี่ติ๊ก ชีโร่ ด้วย แต่ไม่เขียนสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งหลังจากเพลงนี้ติดชาร์ต ยอดวิวเกิน 10 ล้าน ตนก็ไปแสดงความยินดี แต่ได้ยินจากปากว่า เพลงนี้ไม่ใช่เพลงของผม เป็นเพลงของลิลลี่ แต่คำสัญญาที่เขาให้มาก่อนหน้านั้น ทำไมกลับคำ
หลังจากนั้นก็ได้ตนได้ขอไปทำเพลงเป็นเวอร์ชั่นผู้ชาย นำลงยูทูปช่องตัวเอง แต่ถูกปฏิเสธมา ตนจึงไมได้ทำ หลังจากนั้นความสัมพันธ์ก็แย่ลง พูดถึงงานคอนเสิร์ต ตอนแรกเจนนี่บอกจะให้เงิน 3,000 บาทต่องาน แต่พอไปอาศัยที่กรุงเทพฯ ก็รู้สึกไม่คุ้ม จึงไม่ไปเล่นคอนเสิร์ตด้วย ส่วนที่ตนไปออกรายการ ได้ครั้งละ 500 บาท แต่ 2 รายการหลังพ่อได้โทรไปคุยแล้วบอกว่า 500 ไม่คุ้มกับค่าแท็กซี่ ค่าตัว
หลังจากนั้นพ่อได้โทรไปขอส่วนแบ่ง 30% จากยอดวิว 100 ล้านบาท แต่ทางเจนนี่พูดกลับมาว่า พ่อต้องการเท่าไร หลังคุยเสร็จเขาก็ให้เงิยมา 20,000 บาท แต่ตนรู้สึกว่าเขาไม่ได้ให้ด้วยใจเลยโอนคืนไป
อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าไม่ได้ใช้เพจดังเป็นสื่อกลาง และไม่ชอบให้ใครมาตำหนิพ่อของตนเอง และขอโทษด้วยถ้าพูดอะไรผิดพลาดไป หรืออารมณ์ร้อนเกินไป
ที่มา เกริกพล เพชรรัตน์