เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"หนึ่ง มาฬิศร์" เปิดหมดใจ ชีวิตดิ่งลงเหว หลังหลงผิดใช้ยาเสพติด


4 ส.ค. 2563, 14:13



"หนึ่ง มาฬิศร์" เปิดหมดใจ ชีวิตดิ่งลงเหว หลังหลงผิดใช้ยาเสพติด




 

หนึ่ง มาฬิศร์ เชยโสภณ เปิดใจในรายการคุยแซ่บ Show  เมื่อ23 ปีที่แล้ว คือพระเอกละครจักร ๆ วงศ์ ๆ  ชื่อดัง ที่มีผลงานมามากมาย  ไม่ว่าจะเป็น ดาบเจ็ดสี มณีเจ็ดแสง, ขวานฟ้าหน้าดำ, ลักษณวงศ์, หลวิชัย-คาวี, สี่ยอดกุมาร ฯลฯ โดยเฉพาะ ดาบเจ็ดสี มณีเจ็ดแสง  มีเรตติ้งสูงสุดถึง 19 สามารถเอาชนะละครหลังข่าวได้ทุกช่อง แต่เมื่อถึงจุดที่ละครพีคสุดชีวิตกลับดิ่งลง ทั้งเสียคุณพ่อ-คุณแม่ ไม่มีงานจนต้องหันมาพึ่งยาเสพติดถูกตำรวจจับ 

 

เรตติ้งละครสูงมาก?

หนึ่ง : "ตอนเข้ามาก็เล่นละครทั่วไป ผ่านไป 3 ปีก็มาเล่นจักรวงศ์เล่นเป็นพระเอก เราก็มีฐานคนดูจากละครมาแล้วส่วนหนึ่งด้วย ละครเช้าเป็นละครที่คนดู ดูเยอะมากเป็นปติอยู่แล้ว ก็เลยกลายเป็นว่าเรื่องที่เรามาเล่นมีฟีดแบคที่ดี เรื่องสนุก มันเลยทำให้ช่วงนั้นเรตติ้งขึ้นสูงมาก เรื่องที่เรตติ้งเยอะที่สุดคือดาบเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง"

 

หลังจากได้เรตติ้ง 19 สูงสุด งานเริ่มลดลง?

หนึ่ง : "ตอนนั้นถือว่าพีคมากประมาณ 4-5 ปี ช่วงนั้นถ่ายจักรวงศ์ ละครเย็น ละครหลังข่าวด้วย นั่นคือพีคสุดเลย พอหลังจากนั้นก็พ่อป่วยเป็นมะเร็ง ก็หมอบอกประมาณ 6 เดือน เราก็ช็อกแต่ก็รักษากันไปตามอาการ ช่วงหนึ่งคุณแม่เครียดด้วยความที่เป็นเบาหวานความดันอยู่แล้วก็เส้นเลือดในสมองปริเป็นอัมพฤตครึ่งหนึ่ง จากคุณพ่อที่ป่วยอยู่ก็มีแรงลุกขึ้นมาดูแลคุณแม่เฉยเลย อยู่ได้จนเลย 6 เดือน จนคุณแม่เริ่มดีขึ้น ประมาณ 9 เดือนพ่อก็ไป คุณแม่เสียหลังคุณพ่อประมาณ 2 ปี ตอนนั้นคุณแม่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมา 6 เดือนแล้ว วันก่อนที่จะไปคุณแม่มาปลุกผม ปกติก็ไม่เชื่อเรื่องนี้ ก็มาปลุกมาเรียก เราก็แบบปลุกอะไรยังไม่สว่างเลย ลืมตามาก็นึกได้ว่าแม่ไม่อยู่แม่อยู่โรงพยาบาล แล้วโทรศัพท์ก็ดังให้มาด่วนคุณแม่จะเสียแล้ว"



 

 

ช่วงเสียพ่อแม่หันไปหายาเสพติด?

หนึ่ง : "มันเป็นความอ่อนแอของเราเอง มันเหมือนเป็นการหนี ตอนพ่อเสียก็มีเงินที่เป็นมรดกตกทอดมาให้ เรามีเงินส่วนตัวด้วย เริ่มทำธุรกิจด้วย ปรากฏว่ามันไม่สำเร็จสุดท้ายก็หมดเงินไปกับตรงนั้น แต่เราก็คิดว่า เรายังมีงานละครมันคงเลี้ยงชีพเราต่อไปได้ เราก็มีความคาดหวัง แต่ปรากฏว่าช่วงนั้นมันเป็นช่วงที่เราพีคสุดๆ ละครแน่นสุดๆ ละก็หายไปเลย ไม่มีเลยยาวๆ เราก็คิดว่ายังมีเงินเก่าเก็บเอาไปใช้ส่วนหนึ่ง ลงทุนส่วนหนึ่ง สุดท้ายพอมันไม่เวิร์คเงินก็หายไปเรื่อยๆ งานก็ไม่มี คิดลบแหละแต่ก็ยังใช้ชีวิตปกติเงินก็หายไปเรื่อยๆ ที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยวเพราะเราหนีปัญหา พอเราไปปรึกษาใครก็ไม่มีใครเชื่อแต่พอสุดท้ายแล้วเราก็หนีได้แปปเดียวปัญหามันก็ยังอยู่ที่เดิมวนลูปไปอย่างนั้น"

ถูกตำรวจจับ?

หนึ่ง : "ใช่ครับ ถือเป็นเรื่องที่ดีนะ เราไม่รู้ว่าถ้าตำรวจไม่มาจับเราเราก็เป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน โดนจับไปอยู่ห้องขังซึ่งช่วงเวลานี่ทำให้เราคิดเรื่องราวเก่าๆกลับเข้ามา อะไรที่แม่คอยสอนเคยพูด พอสติกลับมาปุ๊บทุกอย่างมันกลับมาเร็วมาก เลยทำให้รู้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะสภาพแวดล้อมใดๆ เลยตัวเราเองทั้งนั้น พอยอมรับตัวเองได้มันก็จบเลย ไม่อยากฆ่าตัวตาย ไม่โทษใคร หลังจากนั้นมาคือเราเป็นผู้เสพ ก็ถือเป็นผู้ป่วยส่งบำบัด ไปบำบัดที่สาธารณสุขเขตไปคุยกับเจ้าหน้าที่"

 

เอาสมบัติเก่ามาขายกิน?

หนึ่ง : "มันเป็นเรื่องช่วงโควิดมีเพจธรรมศาสตร์ที่ฝากร้าน มันดูแล้วสนุกดีก็เลยแบบอยากขายมั่งมีไรขายบ้าง เรามีที่ที่เชียงใหม่จริงๆ ประกาศขายอยู่แล้ว เราก็เขียนเป็นเรื่องตลกไปปรากฏว่ามีสื่อดึงเอาไปเล่นมีปัญหาโควิดนี่หว่าเอามรดกมาขายกิน แล้วมันมีรูปที่ตอนนั้นเราอาหารเป็นพิษโทรมๆ ลงไอจี เขาเอารูปนั้นไปประกอบข่าว เป็นข่าวเดียวกันที่บอกว่าเป็นHIV ก็เอารูปนี้ไปประกอบข่าวเหมือนกัน"

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ภาพจากอินสตาแกรม @1_malys






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.