วันนี้ ( 6 ส.ค. 2563 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ได้รับการเปิดเผย จากนายเทวินทร์ มีทรัพย์ ว่าเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2563 เวลาประมาณ 22.13 น. ตนเองได้รับแจ้งทาง วิทยุสื่อสารของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ว่า นายภูวดล ป้องสา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม สายตรวจฯ (ค่าตอบแทน) จมน้ำระหว่างพยายามข้ามแม่น้ำรันตี บริเวณหน้าจุดสะกัดพ่าบุ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านกองม่องทะ หมู่ที่ 2 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี 

ซึ่งขณะเกิดเหตุมีระดับน้ำสูงเนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันมากว่า 3 วัน ขณะเพื่อนเจ้าหน้าที่ๆ ชุดลาดตระเวน ที่ไปด้วยกัน ได้พยายามนำตัวขึ้นมาจากน้ำ และช่วยชีวิต โดยการ CPR เนื่องจากชีพจรอ่อน จึงได้ประสานหน่วยพิทักษ์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรที่อยู่ใกล้เคียง ขอความช่วยเหลือ อช.เขาแหลม เพื่อให้การช่วยเหลือในการลำเลียงศพ นายภูวดล ป้องสา ออกจากป่าที่เกิดเหตุ

โดยเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนชุดนี้
1.นายทวัชชัย เงินแก้ว
2.นายเอกชัย แสนใจดี
3.นายอัจฉริยะ บุญสมยา
4.นายพรชัย ไทรสังขกุลพร
5.นายวิจิตร ณ.เชียงใหม่
6.นายภูวดล ป้องสา (ผู้เสียชีวิต)

ลาดตระเวนระหว่างวันที่ 1-6 สิงหาคม

ต่อมา นายเทวินทร์ มีทรัพย์  หน.อช.เขาแหลม ได้จัดชุดกู้ภัยฯ เข้าพื้นที่ บ้านกองม่องทะเพื่อประชุมร่วมกับนายไพบูลย์ ช่วยบำรุงวงศ์ กำนัน ต.ไล่โว่ เพื่อหาทางในการนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากป่า แต่เนื่องจากเป็นช่วงเวลากลางคืน และน้ำป่าไหลหลาก น้ำไหลเชี่ยว การเดินทางเข้าพื้นที่ต้องใช้เรือและการเดินเท้าต่อ ซึ่งมีความเสี่ยง จึงตัดสินใจจะเดินทางเข้าไปรับศพผู้เสียชีวิตและเพื่อนอีกทั้ง 5 คน ออกจากป่าในเช้าวันนี้

ต่อมา นายเทวินทร์ มีทรพย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทีมกู้ชีพ ของ อช.เขาแหลม กว่า 12 คน ได้เดินทางมายังบ้านกองม่องทะ ก่อนจะส่งเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งเดินทางด้วยเรือเล็กของชาวบ้านเดินทางขึ้นไปยังหน่วยสะกัดพ่าบุ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านกองม่องทะไปประมาณ 7 กม. โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที และต่อด้วยการเดินเท้าเข้าไปที่จุดเกิดในเช้าอีกกว่า 1 ชม. ท่ามกลางการลุ้นระทึกของ ทุกคนที่รอคอย เมื่อเวลา 11.30 น. ทีมกู้ชีพจึงสามารถนำร่าง นายภูวพล ป้องสา จนท. ที่เสียชีวิตกลับมาถึงท่าเรือบ้านกองม่องทะ ท่ามกลางบรรยากาศความเศร้าเสียใจ ของผู้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงาน หลายคนกลั่นน้ำตาไม่ไหว โผกอดกัน เป็นภาพที่สะเทือนใจของทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์

โดย นายเทวินทร์ มีทรัพย์ ได้เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนหนุ่มที่ตั้งใจทำงาน เมื่อได้รับการมอบหมายงานจะทุ่มเทกับงานอย่างเต็มที่ และเป็น หน.ชุดลาดตระเวนในเส้นทางสันหนอกวัว-กองม่องทะ รู้สึกเสียใจที่ต้องมาสูญเสียบุคลากรที่มีคุณภาพไปอีกคน และต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวที่ต้องมาเสียบุคคลอันเป็นที่รัก โดยนายภูวพล มีภรรยาและมีลูกด้วยกัน 2 คน คนสุดท้องพึ่งอายุได้ประมาณ 2 เดือน ภายหลังทราบข่าวตนเองได้รายงานผู้บังคับบัญชา โดยท่านอธิบดีกรมอุทยานฯ ได้สั่งการให้ตนดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิต และเรื่องการจัดงานศพ อย่างสมเกียรติ พร้อมให้ความช่วยเหลือในเรื่องเงินเยียวยาที่จะได้รับอย่างเต็มที่ตามระเบียบของทางราชการ โดยเบื้องต้น นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ผอ.สำนักอนุรักษ์ที่ 3 มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 10,000 บาท

ด้าน นายอัจฉริยะ บุญยมยา เพื่อนในทีมผู้เสียชีวิต เปิดเผยวินาทีเกิดเหตุว่า ชุดลาดตระเวนที่มี นายภูวพล ป้องสา เป็นหัวหน้าชุด เริ่มออกลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบพร้อมเก็บกู้กล้องที่วางไว้ดักถ่ายภาพสัตว์ป่า ในเส้นทางสันหนอกวัว-บ้านกองม่องทะ ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ โดยออกปฏิบัติหน้าที่ในเช้าวันที่ 1 ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ จนมาถึงเมื่อวานนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ อช.เขาแหลม โดยชุดลาดตระเวนทั้ง 6 นาย มาถึงริมน้ำรันตี ตรงข้ามจุดสะกัดพ่าบุ่ง ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ในเวลาประมาณ 19.00 น. เริ่มใกล้จะมืด โดยทุกคนตั้งจะข้ามไปนอนพักค้างคืนที่หน่วยพ่าบุ่ง ซึ่งอยู่คนละฝั่งน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำกันเป็นปกติ ซึ่งขณะนั้นน้ำในแม่น้ำรันตี มีระดับน้ำสูงขึ้นและไหลเชี่ยว

โดยผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็น หน.ชุดอาสาที่จะเอาเชือกผูกเอวแล้วว่ายน้ำข้ามฝั่งไป เพื่อเอาเชือกผูกต้นไม้ ให้น้องๆ ข้ามฝั่งไปได้สะดวก ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เสียชีวิต ทำเป็นประจำ แต่ครั้งนี้ด้วยกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวขณะที่ผู้เสียชีวิตว่ายไปถึงกลางน้ำ กระแสน้ำได้พัดร่างไปในกระแสน้ำวน ก่อนร่างผู้เสียชีวิตจะจมหายไป โดยทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกใจ และได้พยายามช่วยกันดึงร่างผู้ตายกลับเข้าฝั่ง แต่กว่าจะนำร่างกลับเข้าฝั่งพบว่าผู้เสียชีวิตได้หมดสติ และไม่มีชีพจร จึงได้พยายามช่วยกันปฐมพยาบาล

โดยการทำ CPR นานกว่า 1 ชม. ก็ไม่ฟื้น จึงได้ขอความช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่หน่วยพ่าบุ่ง วิทยุแจ้งผู้บังคับบัญชา ตนเองรู้สึกเสียใจที่ต้องมาสูญเสียผู้ร่วมงานที่เป็นที่รักในทีม เป็นผู้ที่ทำงานด้วยความทุ่มเทและเสียสละมาตลอด หลังเกิดเหตุการณ์ทุกคนต่างขวัญเสีย แต่ก็ต้องนอนเฝ้าศพเพื่อนตลอดทั้งคืน จนมีการเข้าไปช่วยเหลือได้ในวันนี้