เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"ผวจ.นครพนม" สั่งสอบข้อเท็จจริงนายอำเภอโพนสวรรค์โดนไล่ สอนมวยเป็นประธานแล้วอย่าพูดคนเดียว (คลิป)


24 ส.ค. 2563, 11:26



"ผวจ.นครพนม" สั่งสอบข้อเท็จจริงนายอำเภอโพนสวรรค์โดนไล่ สอนมวยเป็นประธานแล้วอย่าพูดคนเดียว (คลิป)




จากกรณีมีกลุ่มนายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน และสมาชิก อบต.(ส.อบต.) จาก 7 ตำบล 92 หมู่ของอำเภอโพนสวรรค์ จั.หวัดนครพนม ประมาณ 200 คน นำโดยนายกิติศักดิ์ จำปา กำนันตำบลบ้านค้อ/ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอโพนสวรรค์ เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ขับไล่นายนพดล ศิริ นายอำเภอโพนสวรรค์ ออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง แต่ ผวจ.ฯติดราชการอยู่กรุงเทพฯ จึงมีนายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รอง ผวจ.นครพนม ลงมารับหนังสือดังกล่าวแทน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ล่าสุด วันที่ 24 สิงหาคม 2563 นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.ฯ เป็นประธานประชุมศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดนครพนม (ศปก.ฯ) ครั้งที่ 158/2563 ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดฯ โดยมีประเด็นข้อราชการของรัฐบาล กระทรวง กรม ที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดนครพนม ได้แก่ การจัดตั้งจุดตรวจจุดสกัดยาเสพติดในพื้นที่ฯ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 สถานการณ์น้ำ สาธารณภัย(อุทกภัย) ฯลฯ เป็นต้น

 ในช่วงหนึ่งได้ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวเรื่องที่มีประชาชนในพื้นที่อำเภอโพนสวรรค์ติดตามข่าวการขับไล่นายอำเภอออกนอกพื้นที่ ว่า วันนี้(24 ส.ค.) ได้สั่งมีการลงพื้นที่เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมกับกล่าวถึงการเป็นข้าราชการที่ดีว่า “การทำงานอย่าถึงกับเป็นประธานแล้วอย่าพูดอยู่คนเดียว ถ้าทุกคนไม่มีส่วนร่วมและไม่เข้าใจแล้ว เขาก็อดเคลือบแคลงสงสัยไม่ได้ในบางเรื่อง ทางจังหวัดจะเร่งสอบสวนให้ประชาชนสบายใจ และให้ความเป็นธรรมกับประชาชนและเพื่อนข้าราชการด้วย”

 ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังนายนพดล ศิริ นายอำเภอโพนสวรรค์ กลายเป็นข่าวครึกโครม ก็มีกลุ่มบุคคลที่อ้างเป็นสื่อใหญ่ในพื้นที่เข้าไปให้กำลังใจ พร้อมอัดคลิปเผยแพร่ลงในกลุ่มไลน์ต่างๆ ซึ่งในคลิปนั้นไม่ได้กล่าวถึงข้อกล่าวหาของกลุ่มผู้ขับไล่ ในขณะเดียวกันก็มีอดีตปลัดอำเภอที่เกษียณอายุราชการออกมาการันตีความบริสุทธิ์อีกด้วย

            สำหรับหนังสือที่กลุ่มผู้ขับไล่ระบุว่า “ตามที่ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมนั้น และผู้ว่าราชการฯได้มอบหมายให้ปลัดจังหวัดนครพนม ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว และเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2563 ปลัดจังหวัดฯได้เดินทางไปที่ว่าการอำเภอโพนสวรรค์และได้ให้กำนันทุกตำบลเข้าพบเพื่อไกล่เกลี่ย แต่กำนันไม่ยอมไกล่เกลี่ยเพราะการไปของปลัดจังหวัดนครพนมยังได้ไปพบกับเสมียนตราอำเภอ และขอให้เสมียนตราอำเภอทำหนังสือช่วย นายนพดล ศิริ เราจึงไม่ได้รับความเป็นธรรม พฤติกรรมชั่วของนายนพดล ศิริ มีดังนี้



1.ให้กำนันผู้ใหญ่บ้านนำเงินกองทุนหมู่บ้านส่งให้นายอำเภอโพนสวรรค์ กองทุนละ 1,500 บาท 2.ให้กำนันผู้ใหญ่บ้านส่วนราชการจัดตั้งกองผ้าป่าทุกหมู่บ้านทุกส่วนราชการเพื่อนำเงินส่งอำเภอ 3.เรี่ยไรทุกหลังคาเรือนในเขตอำเภอโพนสวรรค์ หลังคาละ 99 บาท 4.นำเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ (อุดหนุนศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอโพนสวรรค์ (ศป.ปศ.อ.โพนสวรรรค์) นำเอาไปใช้ส่วนตัว โดยการเบิกแล้วเอาเข้าบัญชีเลขาฯ(ตรวจสอบได้) เนื่องในสถานการณ์บ้านเมืองเกิดโรคระบาดโควิด 2019 ได้ทำความเดือดร้อนให้ราษฎรทั่วไป แต่นายนพดล ศิริ ยังสั่งให้เรี่ยไร ซึ่งทำความเดือดร้อนให้แก่ชาวอำเภอโพนสวรรค์ ดังนั้นชาวอำเภอโพนสวรรค์จึงขอให้ย้ายนายนพดล ศิริ ออกจากอำเภอโพนสวรรค์ภายใน 24 ชั่วโมง” หลังรับหนังสือดังกล่าวแล้ว นายรังสรรค์ฯ รอง ผวจ.นครพนม จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

สิ่งที่ผู้ขับไล่อยากรู้เช่น งบประมาณสนับสนุนการปราบปรามยาเสพติด ที่ให้ทั้ง 7 ตำบลๆละ 50,000 บาท จำนวน 350,000 บาท ถูกนายนพดล ศิริ ให้นำมาส่งแล้วเอาเข้าบัญชีหน้าห้องสาวคนสนิททั้งหมด(ตรวจสอบได้)

ซึ่งนายทรงเกียรติ กวนศักดิ์ นายก อบต.นาใน หนึ่งในกลุ่มผู้ขับไล่ก็เผยว่า นายนพดล ศิริ ได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมา 1 ชุด ด้านหน้าเป็นหลวงปู่ประไพ  อัคคธัมโม เกจิฯชื่อดังที่ละสังขารไปแล้ว ส่วนด้านหลังเป็นเสด็จพ่อ ร.5 โดยอ้างว่าจะนำเงินมาสร้างอนุสาวรีย์เสด็จพ่อ ร.5 ภายในบริเวณที่ว่าการอำเภอโพนสวรรค์ หลังจัดสร้างเสร็จก็นำเหรียญดังกล่าวกระจายให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน ไปจำหน่ายให้กับชาวบ้านทุกบ้านเลขที่ ในราคาเหรียญละ 99 บ้าน เช่นหมู่บ้านนี้มี 100 หลังคาเรือน ก็จะยัดเยียดมาให้เกือบ 200 เหรียญ พร้อมกำชับว่าต้องจำหน่ายให้หมด ถ้าเหลือพวกกำนันผู้ใหญ่บ้านก็ต้องรับผิดชอบ เมื่อนำเงินมามอบ ก็จะมีหน้าห้องเลขาฯสาวคนสนิทนายอำเภอเป็นผู้รับโดยไม่มีใบเสร็จ แล้วนำเข้าบัญชีส่วนตัวของเลขาคนนั้น  ซึ่งนายทรงเกียรติเผยต่อว่า นายนพดล ศิริ ได้จัดตั้งกองผ้าป่าหมู่บ้านละกองรวม 92 กอง(92 หมู่บ้าน) เมื่อได้เงินมาก็เอาเข้าบัญชีส่วนตัวเลขาคนเดิม พอให้มีการชี้แจงก็บ่ายเบี่ยงตลอดเวลา

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้รายงานต่อว่า ในพื้นที่อำเภอโพนสวรรค์ ยังมีข้าราชการรายหนึ่งแอบลักลอบเป็นชู้กับคนสนิทช่วงหลังเดือนเมษายน 2563 เป็นต้นมา  กระทั่งความมาแตกเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 เพราะสามีของหญิงรายนี้ไปเจอภาพบาดใจระหว่างข้าราชการกับลูกน้องสาวในห้องนอนของบ้านพัก แล้วถูกข้าราชการรายนั้นใช้ปืนบังคับข่มขู่ห้ามนำเรื่องนำไปบอกใคร ต่อมาข้าราชการชายชู้ได้สั่งให้สาวคู่ขาไปหย่ากับสามีเพื่อเลี่ยงการถูกร้องเรียน สาวคู่ขายอมทำตามจึงพากันหย่าที่อำเภอแห่งหนึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม 2563

สำหรับนายนพดล ศิริ นายอำเภอโพนสวรรค์ ครั้งยังเป็นปลัดฝ่ายทะเบียนอำเภอนาแก จังหวัดนครพนม เมื่อเดือนมีนาคม 2562 มีกลุ่มพลังมวลชน ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำชุมชนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่อำเภอนาแก รวม 12 ตำบล กว่า 500 คน ชูป้ายประท้วงขับไล่ ให้ย้ายออกจากพื้นที่มาแล้วครั้งหนึ่ง







Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.