ไฟไหม้ ! "ร้านจำรัสพลาสติก - อ็อดไบค์อะไหล่แต่ง" วอดเหลือแต่ซาก เสียหายมูลค่ารวม 60 ล้านบาท
10 ก.ย. 2563, 07:59
เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. วันที่ 10 ก.ย.63 ร.ต.อ.หญิง รัตนาภรณ์ ทองจีน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ร้านจำรัสพลาสติก กับ ร้านอ๊อดไบด์ อะไหล่แต่ง เลขที่ 324/1 ถ.พิทักษ์ชาติ ติดธนาคารกสิกรไทย เขตเทศบาลเมืองประจวบฯ จึงประสานหน่วยดับเพลิงเทศบาลเมืองประจวบฯ รถดับเพลิงกองบิน5 หน่วยดับเพลิง อบต.อ่าวน้อย อบต.เกาะหลัก อบต.ห้วยทราย อบต.บ่อนอก ปภ.จังหวัดประจวบฯ หน่วยกู้ภัยสว่างประจวบฯ เจ้าหน้าที่ชุดลุยไฟมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลปราณบุรี ชุดลุยไฟกองบิน 5 อีก 8 นายเดินทางไปช่วยดับเพลิง
จากการสอบถามที่เกิดเหตุพบมีชาวบ้านมุงดูจำนวนมาก ตรวจสอบเป็นตึก 2 ชั้น จำนวน 2 ห้อง จำหน่ายอะไหล่แต่งรถและซ่อมรถจักรยานยนต์ และเพิงโกดังเก็บสิ่งของและขายสินค้าเบล็ดเตล็ดชั้นเดียวของร้านจำรัสพลาสติกอีก 4 ห้อง ความยาวประมาณ 30 เมตร มีเพลิงกำลังลุกไหม้โหมอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงต้องระดมกำลังฉีดน้ำความคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามออกไปบ้านข้างเคียง ส่วนหนึ่งแบ่งกำลังเข้าไปฉีดดับไฟที่ต้นเหตุในร้านจำรัสพลาสติกโดยใช้เวลาประมาณ 3 ชม.เพลิงจึงจะสงบ เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าในขณะเกิดเหตุไม่มีใครนอนพักอาศัยอยู่ภายในร้าน
นางสาวสุภัทรา สุทธิวิชัยพร อายุ 38 ปี เจ้าของร้านจำรัสพลาสติก เปิดเผยว่า เปิดร้านมานานหลายสิบปีไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ซึ่งในช่วงกลางคืนของทุกวันจะเปิดดวงไฟไว้ประมาณ 5 ดวงตามช่องทางเดินเลือกซื้อสินค้า โดยไม่มีคนนอนเฝ้า แต่ไม่ทราบว่าเกิดเหตุไฟไหม้ได้อย่างไร เนื่องจากไม่ได้จุดไฟธูปเทียนหิ้งพระไว้ สำหรับมูลค่าที่เกิดความเสียหายภายในร้านจำรัสน่าจะประมาณ 50 ล้านบาท และร้านอ็อดไบค์อะไหล่แต่งประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งทางร้านได้ทำประกันอัคคีภัยไว้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ร้านค้าที่เกิดเหตุแห่งนี้เจ้าของมีความใจบุญสุนทานชอบทำบุญและสนับสนุนอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอนสิ่งของเครื่องใช้ให้กับโรงเรียนในถิ่นชนบท ซึ่งล่าสุดได้เตรียมโต๊ะสำหรับครูประจำชั้นไว้ 3 ชุด เพื่อจะนำไปมอบให้กับครูโรงเรียน ตชด.บ้านท่าวังหิน ต.เขาจ้าว อ.ปราณบุรี พร้อมเลี้ยงอาหารกลางวัน และประสานช่างตัดผมจิตอาสาไปร่วมบริการตัดผมฟรีให้กับเด็กนักเรียนในวันพุธ แต่เกิดเหตุเพลิงไหม้เผาจนวอดเสียก่อน
สำหรับสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แน่ชัดอีกครั้งหนึ่งต่อไป