เปิดยุทธการจับกุม "เรือประมง" ผิดกฎหมายในทะเล พบเรือเวียดนาม 2 ลำ พร้อมลูกเรือ 11 คน
10 ก.ย. 2563, 14:02
วันที่ 10 ก.ย.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่กองบังคับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ นำโดย พ.ต.อ.ศราวุฒิ ลิจฉวีราช ผู้กำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ ตาแก้ว รองผู้กำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ พร้อมด้วย พ.ต.ต.ภารดร สวัสดี สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 3 กองกับกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ สืบสวนหาข่าวและสั่งการให้เรือตรวจการณ์ในสังกัดกองบังคับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำออกลาดตระเวนจับกุมปราบปรามการกระทำผิดในทะเล
ทั้งนี้สืบเนื่องจากการทำประมงผิดกฎหมายในท้องทะเลยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเรือต่างสัญชาติแอบเข้ามาลักลอบทำการประมงในเขตน่านน้ำไทย เขตเศรษฐกิจจำเพาะอยู่บ่อยครั้ง เพื่อเป็นการรักษาผลประ โยชน์ของชาติทางทะเลอันป็นภารกิจที่สำคัญ ของกองบังคับการตำรวจน้ำ นอกเหนือจากการป้องกันการกระทำความผิดทางกฎหมายทางอาญาและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง กองบังคับการตำรวจน้ำ โดย พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ ผู้บังกับการตำรวจน้ำ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของของตำรวจน้ำ ได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ จึงได้จัดชุดปฏิบัติการสืบสวนของกองบังคับการตำรวจน้ำ และได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ศราวุฒิ ลิจฉวีราช ผู้กำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ ร่วมภารกิจ การป้องกันการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และการป้องกันปราบปรามการทำการประมงผิดกฎหมาย
ทั้งนี้สืบเนื่องจากการสืบสวนของชุดปฏิบัติการสืบสวนที่ 4 ของบังคับการตำรวจน้ำ โดยมี ร.ต.อ.ธัชพล โชคชัยวัฒนะ รอง สว.ส.รน.3 กก.10 บก.รน. หัวหน้าชุดจับกุม เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2563 ทราบว่าได้มีเรือประมงสัญชาติเวียดนาม รุกล้ำ ลักลอบ เข้ามาทำการประมงในเขตสิทธิการประมงของประเทศไทย จึงได้ประสานมายัง พ.ต.ต.ภราดร สวัสดี สารวัตรตำรวจน้ำนราธิวาส ได้สั่งการให้เรือตรวจการณ์ 528 ซึ่งออกลาดตระเวนในเขตน่านน้ำไทย ร่วมสนธิกำลัง จนกระทั่ง พบเรือประมงสัญชาติเวียดนามจำนวน 2 ลำ กำลังทำการประมงชนิดลากเดี่ยว บริเวณ แลตติจูด 07 องศา 55 ลิปดาเหนือ ลองติจูด 102 องศา 51 ลิปดาตะวันออกและ จึงได้นำเรือตรวจการณ์ 528 เข้าทำการตรวจสอบ และทำการจับกุม มีผู้ต้องหาสัญชาติเวียดนามทั้งหมดจำนวน 11 คน พร้อมเรือประมงเวียดนาม 2 ลำ ลำดับที่ 1 บี.ที.97086 ที.เอส. ลำดับที่ 2 บี.ที.93980 ที.เอส.
จึงได้นำเรือพร้อมบุคคลทั้งหมดกลับมายังท่าเทียบเรือตำรวจน้ำนราธิวาส ซึ่งปัญหาลักลอบการทำประมงของเรือสัญชาติอื่นนั้นเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรและธรรมชาติของประเทศไทย ทางกองบังคับการตำรวจน้ำตระหนักและต้องปราบปรามจับกุมอย่างจริงจัง เพื่อรักษาผลประโยชน์ทางทะเลแห่งประเทศไทย และในการควบคุมและการจับกุมครั้งนี้ ได้ประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดนรริวาส เพื่อดำเนินการคัดกรองตรวจโควิค 19 ตามกระบวนการทุกขั้นตอน จากนั้นได้นำผู้ถูกจับกุมทั้งหมดพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป