นางสาวพัชรี เพชรรัตน์ อายุ 38 ปี ร้องขอความเป็นธรรมกับนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความและประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เหตุเธอต้องหาเงินกว่า 12 ล้านบาท มาจ่ายใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อ

นางสาวพัชรี เล่าว่า เธออาศัยอยู่ที่จังหวัดระยอง ทำงานเป็นพนักงานบริษัท คิดจะซื้อบ้านให้แม่และตัวเองอยู่อาศัย แต่ติดขัดไม่สามารถกู้เงินกับธนาคารได้ ช่วงเดือนมิถุนายน 2563 เธอจึงนำเรื่องนี้ไปตั้งเป็นกระทู้ และโพสต์ถามตามเฟซบุ๊กต่าง ๆ โดยทิ้ง ID แอปพลิเคชันไลน์ไว้ เพื่อขอคำแนะนำจากผู้คนในโลกโซเชียล

กระทั่งวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา มีผู้หญิงชื่อ "อ๋อม" ทักไลน์มาหา เสนอตัวช่วยเหลือ ปรับแต่งเดินบัญชีธนาคารให้ แต่ขอเวลา 6 เดือน คิดค่าใช้จ่าย 7% ต่อยอดเงินคงเหลือในบัญชี ถ้าสนใจให้ถ่ายรูปบัตรประจำตัวประชาชน สมุดบัญชีธนาคาร พร้อมกับบัตร ATM ส่งกลับมาทางไลน์

ช่วงต้นเดือนกันยายน เธอก็ได้รับหมายเรียกจาก ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี ว่าเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง เนื่องจากมีผู้เสียหาย 2 ราย แจ้งความว่าถูกหลอกให้โอนเงิน รายละกว่า 200,000 บาท เพื่อซื้อปุ๋ย แต่ไม่ได้รับสินค้า เธอจึงติดต่อกลับไปหาผู้หญิงที่ชื่อ "อ๋อม" อีกฝ่ายอ่านข้อความ แต่ไม่ตอบกลับ ไม่รับสาย และปิดเครื่อง ไม่สามารถติดต่อได้อีก

 

นางสาวพัชรี รีบตรวจสอบข้อเท็จจริงนี้กับทางธนาคารเจ้าของบัญชี ที่เคยถ่ายรูปส่งไปให้ "อ๋อม" พบว่าในบัญชีดังกล่าวมียอดเงินหมุนเวียนหลักสิบล้านบาท

นอกจากนี้ นางสาวพัชรี ยังมีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารพาณิชย์อีกหลายแห่ง และแต่ละบัญชี มียอดเงินเกือบสิบล้านบาทด้วย

เวลานี้เงินในบัญชีธนาคารในชื่อของนางสาวพัชรี ถูกมิจฉาชีพถ่ายโอนจนหมดเกลี้ยงแล้ว คงเหลือแต่ภาระหนี้สินรวมกว่า 12 ล้านบาท ให้เธอต้องชดใช้ ทำให้เธอรู้สึกเครียด และทุกข์ใจอย่างมาก