หลัง ตั๊ก บงกช ที่ออกมาเปิดเผยว่า น้องข้าวหอม ลูกชายสุดที่รัก เคยโดนครูที่โรงเรียนแกล้งให้อดน้ำและไม่ให้เข้าห้องน้ำ ให้อั้นปัสสาวะ แถมยังสั่งน้องไม่ให้บอกแม่ ไม่อย่างนั้นแม่จะมาทำร้ายครู เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสอดส่องดูแล  เกี่ยวกับเรื่องนี้ เรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า สมาชิกของสมาคมผู้ปกครอง โรงเรียนสาธิตพัฒนา ชี้แจงว่า เรื่องทั้งหมดไม่ได้เป็นไปตามที่ ตั๊ก บงกช โพสต์ แต่อาจเป็นเพราะลูกชายของตั๊กอาจจะติดเล่น ไม่ไปดื่มน้ำ ไม่ไปปัสสาวะให้เรียบร้อย พอถึงเวลาเข้าชั้นเรียน ก็มาขออนุญาตคุณครู ทำให้คุณครูไม่อนุญาต

     

    ล่าสุด ทีมงาน เรื่องเล่าเช้านี้  ได้โทร. ติดต่อไปยัง ตั๊ก บงกช ซึ่งเจ้าตัวส่งสายให้ เจ้าสัวบุญชัย เบญจรงคกุล สามี โดยเจ้าสัวระบุว่า ลูกถูกสั่งห้ามไปฉี่และไม่ให้ดื่มน้ำ เป็นคำพูดที่ลูกมาเล่าให้ฟัง ซึ่งปกติแล้วลูกชายเป็นเด็กไม่โกหก เขาบอกว่าตอนพักเบรกยังไม่ปวดฉี่ และยังไม่หิวน้ำ แต่มาปวดตอนเข้าเรียน และครูไม่อนุญาต ซึ่งประเด็นนี้เลือกที่จะรับฟังลูก เพราะพ่อแม่แต่ละคนก็มีวิธีการเลี้ยงลูกไม่เหมือนกัน    

 

ส่วนเรื่องการเข้าเรียนนั้น ตอนช่วงโควิด 19 ทางโรงเรียนสอนแบบออนไลน์ ให้เด็กเรียนที่บ้าน แต่เมื่อโรงเรียนเปิดแล้ว ทางครอบครัวก็ยังไม่อยากให้ลูกไปเรียน เพราะว่าลูกชายเป็นเด็กไม่ชอบใส่หน้ากากอนามัย จึงขอยืดเวลาให้ลูกหยุดอยู่บ้านอีกสักระยะหนึ่ง ซึ่งทางโรงเรียนยืนยันว่าไม่ได้ เพราะเป็นกฎระเบียบของโรงเรียน ที่เด็กต้องมีเวลาเข้าเรียนไม่น้อยกว่า 80% ไม่อย่างนั้นต้องซ้ำชั้น ทางบ้านจึงตัดสินใจให้ลูกลาออกดีกว่า เพราะไม่อยากให้ลูกไปสร้างความเดือดร้อนให้โรงเรียน และโรงเรียนก็ได้คืนเงินค่าเทอมมา 70% จากนั้นก็ย้ายลูกไปเรียนโรงเรียนอื่น

          เจ้าสัวบุญชัย กล่าวอีกว่า ตนชื่นชมว่าโรงเรียนนี้ดี มีชื่อเสียง แต่รู้สึกไม่เป็นไปตามที่เคยรับฟังมาว่า 3 ปีแรก จะมีการเรียนการสอนแบบประเทศฟินแลนด์ คือให้เด็กสร้างการเรียนรู้ด้วยตนเอง ไม่ได้เน้นทฤษฎีในตำรา แต่พอไปเรียนแล้วไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้   นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่คุณครูตั้งชื่อฉายาให้กับเด็ก ๆ ซึ่งตนเข้าใจว่าทำเพื่อความสนุกสนาน และสร้างการจดจำชื่อในหมู่เพื่อน ๆ แต่ปรากฏว่า น้องข้าวหอม ชื่อจริงคือ ด.ช.ชีวกิตติ์ แต่ครูเปลี่ยนให้เป็น ชีวกุด เพื่อน ๆ ก็เลยเอาไปล้อว่า ชีวิตกุด ซึ่งมันเป็นความหมายที่ไม่ดีเลย