จากกรณี นายปัญญา โกมลศรี หรือเล็ก อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 126 หมู่ 1 ต.หนองลาด อ.เมือง จ.สกลนคร ฉุดลากตัวอดีตภรรยา น.ส.สุมลทิพย์ ตุ่นกลิ่น หรือน้องกิ๊ฟ อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 13 หมู่ 3 บ้านโนนสูง ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร มาจากหน้าบ้านแฟนหนุ่มของพี่สาวต่างบิดาที่ชื่อ น.ส.ศิริพร สรศิลป์ หรือน้ำ อายุ 22 ปี เหตุเกิดที่บ้านห้วยไห หมู่ 5 ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา จากนั้นนายเล็กก็ส่งภาพถ่ายของน้องกิ๊ฟ ในสภาพถูกพันธนาการด้วยโซ่เหล็กที่แขนสองข้างและลำคอ ท่อนล่างเปลือยเปล่า พร้อมข่มขู่ว่าถ้าใครแจ้งความจะตามไปฆ่าล้างโคตร ทำให้ญาติๆเกิดความหวาดกลัว

 

ภายหลัง น.ส.กรรณิกา ดวงคุณ หรือหนุงหนิง อายุ 19 ปี เป็นลูกพี่ลูกน้องกับน้องกิ๊ฟ ทนเห็นสภาพน้องสาวถูกทำร้ายไม่ไหว เป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อน ลงเฟซบุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือ จึงมีการแชร์ต่อๆกันในโลกออนไลน์ ช่วยกันสืบค้นหาสถานที่กักขังตัวน้องกิ๊ฟจ้าละหวั่น

 

กระทั่งนายเล็กทนแรงกดดันไม่ไหว ได้นำตัวน้องกิ๊ฟมาทิ้งไว้ในพื้นที่บ้านหนองปลากดุก หมู่ 9 ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ประกอบด้วยตำรวจกองปราบปราม ที่รับผิดชอบเขต 20 จังหวัดภาคอีสาน โดยมี  พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. เป็นหัวหน้าชุด,สืบสวน สภ.นาหว้า,สืบสวน สภ.โพนสวรรค์ และตำรวจสืบสวน บก.ภ.จว.สกลนคร จึงนำตัวน้องกิ๊ฟ น.ส.น้ำ และน้องหนุงหนิง มาสอบสวนปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพในเซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง ซึ่งเบื้องต้นน้องกิ๊ฟมีสภาพอิดโรยหวาดผวา หลังมีนักจิตวิทยา นักสังคมสังเคราะห์เข้าไปปลอบโยน จึงทำให้ผู้เสียหายคลายความหวาดกลัวลงได้

 

โดยหลังจากสอบปากคำในชั้นเบื้องต้นเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ได้ให้ น.ส.น้ำ และน้องหนุงหนิง เดินทางกลับบ้านที่จังหวัดสกลนคร โดยสั่งให้ปิดโทรศัพท์มือถือ เพื่อไม่ให้ผู้หนึ่งผู้ใดรบกวน ส่วนน้องกิ๊ฟต้องอยู่ในความดูแลของสหวิชาชีพเพื่อเยียวยาด้านจิตใจระยะหนึ่งก่อน