จากกรณี ซาร่า คาซิงกินี ได้ออกมาพูดเรื่องไมค์และลูกอีกรอบถึงเรื่องราวที่ดราม่าไม่เข้าใจกัน พร้อมยอมรับหากศาลตัดสินให้ออกคนละครึ่ง ยืนยันไม่เคยสอนให้ลูกเกลียดพ่อไม่เคยกีดกัน ไมค์ พิรัชต์ ต่อไปถ้าอยากให้เงินเท่าไรก็แล้วแต่ไมค์จะเมตตา ต่อมา ไมค์ ได้ออกมาโพสต์ว่า ตัดสินใจที่จะถอนคำร้องสิทธิ์ในการปกครองบุตรร่วมเพราะสงสารที่ลูกต้องเจอเรื่องต่างๆ แบบนี้ และจะขอเก็บเงินเข้าบัญชีลูก พร้อมให้ในวันที่ลูกบรรลุนิติภาวะ

ล่าสุด (8 ต.ค.63)  ทนายต้อม-สนิท ปัจจายา ทนายเจ้าของคดีซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจจากไมค์ พิรัชต์ ได้เข้ายื่นขอถอนคำร้องจดทะเบียนรับผู้เยาว์เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายฯ ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง 

 

ภาพจาก ข่าวสด 

โดย ทนายต้อม เผยว่าในวันนี้ตนเป็นตัวแทนมายื่นถอดสิทธิ์ดังกล่าวเนื่องจากทางซาร่า คาซิงกินี ได้ยื่นคำร้องคัดค้านในเรื่องการขอจดทะเบียนการรับรองบุตรร่วมจากไมค์ พิรัชต์ อดีตสามี ซึ่งตามขั้นตอนของกฎหมายนั้นตนในฐานะทนายความเจ้าของคดีจะต้องส่งคำร้องนี้ไปยังทางซาร่า อีกครั้งว่าจะคัดค้านคำร้องขอถอนสิทธิ์อีกหรือไม่ แต่การอนุญาตในครั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล โดยจะนัดสั่งพิจารณาคดีอีกครั้งซึ่งคาดว่าไม่เกิน 7 วัน

ทนายสนิท กล่าวต่อว่า สำหรับไมค์ พิรัชต์ ได้ตัดสินใจขอถอนสิทธิ์ดังกล่าวเนื่องจากอยากให้เรื่องทั้งหมดจบลงโดยเร็ว เพราะไม่อยากให้เกิดผลกระทบต่อจิตใจของน้องแม็กซ์เวลล์ ส่วนแนวโน้มในทางคดีหลังจากนี้หากอีกฝ่ายไม่มีการคัดค้านเกิดขึ้นทางศาลอาจอนุมัติคำสั่งให้เพิกถอนได้ในทันที โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการพบเจอกันระหว่างบิดาและบุตรชาย ซึ่งอยู่ที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงกันแต่จะต้องนึกถึงสภาพจิตใจของเด็กเป็นที่ตั้งเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

“ส่วนกรณีเรื่องผลประโยชน์ที่ได้รับกับตัวเด็กนั้น ต้องขอชี้แจงว่าตามกระบวนการตามขั้นตอนของกฎหมายทางไมค์ พิรัชต์ ไม่ใช่บิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ความผูกพันธ์ระหว่างลูกกับพ่อมีอยู่แล้วโดยสายเลือด ส่วนเรื่องค่าเลี้ยงดูเป็นรายเดือนนั้นขึ้นอยู่ที่ไมค์ พิรัชต์ จะตัดสินใจและไม่มีหน้าที่จะต้องโอนให้กับอดีตภรรยา แต่รายละเอียดเบื้องต้นที่ทราบจากไอจีของเจ้าตัวนั้นระบุว่าจะโอนเข้าบัญชีให้บุตรชายโดยตรงและจะถอนได้ตอนบรรลุนิติภาวะ แต่หากทางฝ่ายหญิงมีการฟ้องร้องให้ส่งเสียเลี้ยงดูตามเดิมก็เป็นสิทธิ์ของเค้าเช่นกัน” ทนายสนิท กล่าว