ฝนกระหน่ำ บุรีรัมย์!! ยังไม่พอเติมอ่าง ด้านชลประทานมั่นใจ "น้ำประปา" เพียงพอใช้ตลอดทั้งปี
12 ต.ค. 2563, 16:10
ยืนยันน้ำประปาพอใช้ตลอดทั้งปี กรณีอ่างเก็บน้ำสำหรับผลิตน้ำประปา เหลือน้ำเพียง 8 เปอร์เซ็นต์ หรือ 13 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 56 ลบ.ม. ชลประทานมั่นใจจะเพียงพอกับการผลิตน้ำประปาแน่นอน เพราะได้เตรียมการและวางแผนการผันน้ำจากแหล่งน้ำข้างเคียงไว้เรียบร้อยแล้ว ยันถนนรอบอ่างไม่เกี่ยว
วันที่ 10 ต.ค.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พายุระดับ 3 (โซนร้อน) "หลิ่นฟา" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ 3 (โซนร้อน) หลิ่นฟาแล้วบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางที่ละติจูด 14.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.2 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว ประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเคลื่อนผ่านบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนาม
โดยจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามในช่วงวันที่ 11-12 ต.ค. 63 ทำให้ด้านตะวันออกและตอนล่างของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนเพิ่มขึ้นพายุฝน” ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศแจ้งเตือนก่อนหน้านี้ ตรงกับความต้องการของชาวจังหวัดบุรีรัมย์ เนื่องจากแหล่งน้ำหลายแห่ง ยังมีน้ำไม่เพียงพอ โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำห้วยตลาดและอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก อ.เมือง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบนำไปใช้ในการผลิตน้ำประปาหลักของจังหวัดบุรีรัมย์ เพราะอ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง เหลือน้ำดิบเพียง 9 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น จากน้ำดิบที่ต้องใช้ในการผลิตน้ำประปาถึง 18 ล้าน ลบ.ม. ต่อปี จนมีเสียงชาวบุรีรัมย์วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก ว่า สาเหตุที่น้ำในอ่างมีน้อยนอกจากจะฝนตกไม่ตรงอ่าง หรือปริมาณฝนตกน้อย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะถนนไบค์เลน ที่ถูกสร้างขึ้นให้เป็นถนนสำหรับออกกำลังกายรอบอ่างเก็บน้ำ ขวางทางน้ำเข้าหรือไม่
นายนิวัฒน์ โชติชื่น รักษาการผู้อำนวยการโครงการชลประทานบุรีรัมย์ ได้ออกมาระบุว่า น้ำในอ่างเก็บน้ำทั้งสองอ่างรวมกัน ณ เวลานี้ มีประมาณ 9 ล้าน ลบ.ม. จากก่อนหน้านี้แห้งขอดไปแล้ว ตอนนี้ชลประทานได้ผันน้ำจากลำน้ำมาศ ซึ่งเป็นช่วงฤดูน้ำหลาก ระยะทาง 16 กม. เข้ามาเติมอ่างวันละประมาณ 150,000 ลบ.ม. คาดว่าจะเติมน้ำได้อีกประมาณ 5 ล้าน ลบ.ม. รวมเป็น 14 ล้าน ลบ.ม.
นอกจากนี้ชลประทาน ยังเตรียมผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยสวายซึ่งมีอีก 13 ล้าน ลบ.ม.มาเติมเพิ่มอีก รวมกับน้ำในอ่างเดิม จะมีน้ำในอ่างเก็บน้ำไม่น้อยกว่า 27 ล้าน ลบ.ม. ยังไม่รวมน้ำในบ่อโรงโม่หินเก่าอีก 2 บ่อ อีกกว่า 4 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งได้มีการเดินท่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว หากมีฝนมาเติมในช่วงท้ายฤดูอีก ก็จะลดการผันน้ำลง โดยให้เหลือในอ่างอย่างน้อย 27 ล้าน ลบ.ม. ดังนั้นภาพโดยรวมน้ำประปาของจังหวัดบุรีรัมย์ นับจากนี้ไปอีก 1 ปี เพียงพออย่างแน่นอน
นายนิวัฒน์ ยังกล่าวด้วยว่า กรณีมีคนตั้งข้อสังเกตเกี่ยวถนนไบค์เลน ที่สร้างรอบอ่างเก็บน้ำทั้งสองแห่งขวางทางน้ำไหลเข้าอ่าง ทำให้อ่างไม่มีน้ำนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะถนนรอบอ่างเก็บน้ำ จะมีท่อระบายน้ำ และคลองทางน้ำเข้าอ่างเป็นระยะตลอดรอบอ่างอยู่แล้ว ในความเป็นจริงตามธรรมชาติ ถ้าน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำไม่ได้ ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา ก็จะย้อนไปท่วมนาข้าวและบ้านเรือนของชาวบ้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ตอนนี้ยังไม่พบมีชาวบ้านมาร้องเรียนแต่อย่างใด นายนิวัฒน์ กล่าว