เมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ 23 ต.ค.63 พันตำรวจเอก กุลชาติ กุลชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ่อทอง จ.ชลบุรี เดินทางไปพร้อม พ.ต.ท.สมาน  สรีพูล พนักงานสอบสวน พร้อมกำลัง และ นาย กิตติพงษ์  กิตติคุณ นายอำเภอบ่อทอง และฝ่ายปกครอง ไปที่ สวนปาล์ม ม.8 ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี ซึ่งมีนาย สุรัตน์ คงพร้อม เป็นเจ้าของ หลังรับแจ้ง มีพระสงฆ์ ถูกช้างป่าเหยียบกระทืบมรณะภาพ

เมื่อไปถึงพบ ห่างจากสระน้ำ 84 พรรษาไม่ไกล ซึ่งเป็นสวนปาล์ม พบร่างของ พระสงฆ์ นอนมรณภาพ สภาพร่างกายแหลกเหลว ท้องแตก ขาซ้ายขาด เป็นที่น่าสยดสยอง ถัดออกไป พบจีวร ตกเกลื่อนกระจายกันออกไปหลายที่ พบบาตรพระบิ่นบู้บี้  ไม่มีเศษอาหารหลงเหลืออยู่

ตร.สอบสวน พระสงฆ์ 2 รูป และผู้เห็นเหตุการณ์ เป็นคนงานชาวกัมพูชา ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ พระสงฆ์ 3 รูป จะใช้เส้นทางนี้ ในการเดินบิณฑบาตเป็นประจำเกือบทุกวัน รวมถึงพระอื่น ๆ ระหว่างที่เดินบิณฑบาตกันอยู่ 3 รูป เห็นช้างป่าตกมัน เดินออกมาทางสระน้ำ พระสงฆ์ 2 รูป จึงรีบวิ่งหนีรอก แต่องค์ที่ 3 พระสุเทพ เร่งอนันต์ อายุ 52 ปี พระลูกวัดบุญญาวาส ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง เดินหนีไม่ทัน ช้างป่าตกมัน จึงเข้าไปทำร้าย เหยียบกระทืบจนมรณภาพคาที่ และกินอาหารในบาตรจนหมด แล้วเดินเข้าป่าไปอย่างสบายใจ
พ.ต.อ.กุลชาติ กล่าวว่า ช้างป่าตัวนี้ ซึ่งหลุดออกมาจากโขลงที่มีอยู่ประมาณ 30-40 ตัว อาศัยอยู่ในแถบ บ้านหนองจระเข้ ต.บ่อทอง เพราะหิว และเดินหาอาหาร พอเจอคนก็มุ่งจะทำงาน น่าจเป็นตัวเดียวกับ ที่เหยียบกระทืบ นายสมชาย คนกรีดยางจนตาย ที่ บ้านหนองจระเข้ ต.บ่อทอง ห่างออกจากจุดนี้ไป 10 กม. เมื่อสัปดาห์ก่อน

นายกิตติพงษ์  กิตติคุณ นายอำเภอบ่อทอง เรียกผู้เกี่ยวข้อง เข้าประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหาและหางานผลักดันช้างป่าโขลงต่าง ๆ  มีทีอยู่หลายโขลง และโขลงจำนวนมาก รวมกว่า 30-40 ตัว ออกไปจากพื้นที่ เพราะที่ผ่านมา มีผู้คนถูกทำร้ายล้มตายหลายคน และบางครอบครัวยังถูกช้างป่าเหล่านี้ เข้าไปอาละวาดทำลายข้าวของในบ้านพักกันอีก