วันนี้ (24ต.ค.63) พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดสกลนคร เพื่อเร่งรัดติดตามความคืบหน้าการพัฒนาและฟื้นฟูบึงหนองหาร รองรับการแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งให้กลับมาเป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สมบูรณ์ โดยรับฟังบรรยายสรุปถึงสภาพปัญหาความเสื่อมโทรมของระบบนิเวศและสาเหตุการลดลงของศักยภาพการกักเก็บกักน้ำ รวมทั้งความคืบหน้าการพัฒนาพื้นที่ภาพรวมในการบริหารจัดการและฟื้นฟูบึงหนองหาร ซึ่งเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่กว่า 77,016 ไร่ พื้นที่ได้รับประโยชน์ 53 ตำบล รวมกว่า 1 ล้านไร่ ทั้งจังหวัดสกลนคร และนครพนม ประชาชนได้รับประโยชน์ 80,750 ครัวเรือน 

พลเอก ประวิตร กล่าวย้ำว่า รัฐบาลเห็นชอบแผนหลักการพัฒนาบึงหนองหารระยะ 10 ปี รวม 62 โครงการ วงเงินกว่า 7,455 ล้านบาท โดยต้องการพัฒนาบึงหนองหาร ให้เชื่อมโยงการผันน้ำจากลำน้ำพุง ไปยังโครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ รองรับการแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน รวมทั้งเพื่อการจัดการน้ำอุปโภค-บริโภคของประชาชน โดยเฉพาะการขยายและเพิ่มประสิทธิภาพระบบประปาหมู่บ้าน สร้างความมั่นคงของน้ำภาคการเกษตร โดยต้องการเพิ่มพื้นที่ชลประทานอีกกว่า 25,000 ไร่ โดยขอให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ( สทนช.) ตั้งคณะทำงานกำกับและเร่งรัดขับเคลื่อนแผนหลักสู่การปฏิบัติตามเป้าหมาย รวมทั้งกำชับจังหวัดสกลนคร กำหนดการกำจัดวัชพืชและน้ำเสียให้เป็นรูปธรรม พร้อมขอให้กระทรวงมหาดไทย ร่วมทำหน้าที่กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำหนดรูปแบบการเพาะปลูกและควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินและกำหนดระบบการบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ให้เชื่อมต่อระบบชลประทานขนาดใหญ่ที่มีอยู่

พลเอก ประวิตร ยังกำชับให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งขับเคลื่อนพัฒนาป่าไม้ต้นแบบพื้นที่ต้นน้ำหนองหารให้สมบูรณ์ ขอให้กรมชลประทาน เป็นหลักบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมบริหารจัดการน้ำในพื้นที่บึงหนองหาร การอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ รวมทั้งกำหนดรูปแบบการเพาะปลูกและควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยนำภาคประชาคมในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมและการจ้างแรงงานในพื้นที่ เพื่อร่วมกันพัฒนาหนองหาร ตลอดจนขอให้พิจารณาต่อยอดขยายผลสำเร็จใช้เป็นต้นแบบในการพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น บึงโขงหลงและกว๊านพะเยาต่อไป