วันที่ 27 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ภายในศาลาอเนกประสงค์ วัดป่าดงหมู หมู่ 10 ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม โดยบริเวณด้านหลังเจดีย์นางคำกอง (ธาตุนางคำกอง) เป็นสถานที่ตั้งรูปปั้น “ไอ้ขวด” หรือชาวอีสานเรียก “บักหำขวด” มีขนาดความสูง 119 ซม. ลักษณะนุ่งผ้าโจงกระเบนโบราณ ท่ายืนยิ้มพนม มีชาวบ้านนำเครื่องสักการะ อาทิ พวงมาลัย นมเปรี้ยว น้ำอัดลม น้ำดื่ม ผลไม้ และรถของเด็กเล็ก เช่น แบ็คโฮ รถตัก เป็นต้น มาแก้บนกับบักหำขวดหลังได้รับโชคลาภติดต่อกันมาแล้วหลายงวด 

ผู้ที่โชคดีอย่างเช่น นางมล ไชยภา อายุ 51 ปี เปิดเผยว่า ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ฝันเห็นเด็กนุ่งผ้าโจงกระเบนมาขออยู่ด้วย ตนก็ตอบยินดีเพราะมีนิสัยรักเด็กเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว วันต่อมาเพื่อนส่งภาพบักหำขวดมาให้ดู โดยบอกว่าไม่ต้องถ่อสังขารไปไกล ตอนนี้บ้านดงหมูมีเด็กมาให้โชคลาภ ซึ่งในภาพลักษณะเด็กที่ชื่อบักหำขวดตรงกับที่ตนฝันเป๊ะเลย และไม่รู้มาก่อนว่าบักหำขวดได้ทำพิธีเบิกเนตรเมื่อเดือนมีนาคม ตนจึงไปกราบสักการะขอพรที่วัด ตั้งแต่นั้นมาก็มีโชคลาภถูกหวยรวยเบอร์ตลอด จึงมีความเชื่อว่าบักหำขวดเป็นผู้บันดาลโชคให้ตนหมานตลอดทั้งปี 

ขณะที่ น.ส.ภักตร์พิมล ภัคพลเตชสิทธิ์ หรือเอมมี่ อายุ 25 ปี คนอำเภอธาตุพนม เล่าว่ามีอาชีพเป็นนายหน้าที่ดิน ทราบข่าวว่าที่วัดป่าดงหมูมีรูปปั้นบักหำขวด มีความศักดิ์สิทธิ์ให้โชคลาภกับผู้คนมาแล้วหลายคน ทีแรกไม่มีความเชื่อถือนักแต่ลองไปขอดู โดยบนไว้ว่ามีที่ดินอยู่ริมแม่น้ำโขง 3 ไร่ ปักป้ายประกาศขายไว้หลายเดือนยังไม่มีใครติดต่อมาเลย หากบักหำขวดสามารถบันดาลโชคลาภได้จริง จงดลใจให้คนมาซื้อแปลงนี้ให้ด้วย แล้วจะนำรูปหล่อที่บูชามาไปใส่กรอบทองฝังเพชร ปรากฏว่าไม่กี่วันต่อมาก็เกิดเหตุมหัศจรรย์ขึ้น เมื่อมีคนติดต่อขอซื้อที่แปลงนี้ในราคาไร่ละ 3 ล้านบาท โดยไม่ต่อแม้แต่คำเดียว จึงเชื่อสนิทใจว่าบักหำขวดคือผู้ที่ชักจูงเศรษฐีมาซื้อส่วนนายทศพร สอนพิมพ์ อายุ 51 ปี เล่าว่าปกติเป็นคนที่ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ เห็นมีรูปปั้นบักหำขวดมาตั้งภายในวัดป่าดงหมูก็รู้สึกเฉยๆ วันหนึ่งฝันเห็นรอบๆ บริเวณวัดที่ศาลาที่ตั้งรูปปั้น รุ่งเช้าก็ไปยืนเกาะขอบระเบียงไม้ในศาลาแล้วพูดกับรูปปั้นโดยไม่ได้ยกมือไหว้ เพราะในขณะนั้นไม่เชื่อถือ ว่า ถ้าศักดิ์สิทธิ์จริงไปบอกเลข 3 ตัวตรงๆ ให้ด้วย ซึ่งในคืนนั้นตนก็ฝันเห็นเลข 3 ตัวจริงๆ จึงนำไปเสี่ยงโชค ปรากฏว่าถูกสามตัวตรงเป๊ะรับทรัพย์ 15,000 บาท งวดต่อมาก็ยังไม่มีความเชื่อศรัทธาได้ไปยืนร้องท้าทายอีก และก็ฝันเห็นเลขสามตัวอีก เมื่อนำไปเสี่ยงโชคก็ถูกสามตัวตรงๆรับเงินไปอีก 15,000 บาท รวม 2 งวด เป็นเงิน 30,000 บาท จึงรีบนำดอกไม้ธูปเทียนกราบขอขมาต่อบักหำขวด และมีความศรัทธาอย่างไม่มีข้อสงสัยอีกต่อไป
 
 

สำหรับในศาลารูปปั้นบักหำขวด  มีอ่างน้ำมนต์พญานาค ด้านหน้ามีแผ่นหินที่ขาวโพลนไปด้วยฝุ่นแป้ง ที่ชาวบ้านนำมาลูบขอเลข งวดนี้เห็นเลข 23, 67 ส่วนไม้ติ้วเสี่ยงทาย ได้เลข 9-3-9 โดยพระอาจารย์วรรณ จิตติโสภโณ เจ้าสำนักวัดป่าดงหมู ได้นำวัตถุมงคลบักหำขวด รุ่นแรก ที่ผ่านการพุทธาภิเษกไปเมื่อวันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม ให้ลูกศิษย์มาแจกแก่ญาติโยมไว้ติดตัว

วัดป่าดงหมูหมู่ 10 ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม มีความร่มรื่นด้วยมวลแมกไม้ สะอาด สะอ้าน มีเถาวัลย์ต้นแสนพันเลื้อยโยงกับต้นไม้ใกล้เคียง มองดูน่าเกรงขาม และมีเรื่องผูกโยงกับวรรณกรรมพื้นบ้านเรื่องจำปาสี่ต้น มุ่งสั่งสอนชาวไทยล้านนา ชาวอีสาน และชาวลาว ในเรื่องกฎแห่งกรรมส่งเสริมให้ทำความดี มีความกตัญญูรู้คุณ และสะท้อนให้เห็นความเชื่อขนบธรรมเนียมประเพณี กล่าวคือท้าวจุลนีมีมเหสีฝ่ายขวาชื่อนางอัคคี และมเหสีฝ่ายซ้ายคือนางปทุมมา หรือนางคำกอง  ต่อมานางคำกองตั้งท้องและคลอดลูกแฝด 4 คน นางอัคคีมเหสีฝ่ายขวามีความอิจฉาจึงนำลูกสุนัข 4 ตัว มาสับเปลี่ยน จากนั้นก็นำทารกทั้งสี่ใส่ไหลอยทิ้งน้ำ ท้าวจุลนีโกรธที่นางคำกองออกลูกเป็นสุนัขจึงเนรเทศไปเป็นทาส ทำหน้าที่เลี้ยงหมู (ปัจจุบันคือบ้านดงหมู) ส่วนทารกทั้สี่มีตายายพบและนำมาชุบเลี้ยง ความรู้ถึงหูนางอัคคีจึงสั่งนางกำนัลใส่ยาพิษในขนมให้เด็กทั้งสี่กินจนตายและเผาศพ ปรากฏว่ารุ่งเช้ามีต้นจำปาสี่ต้นเกิดอยู่ตรงที่เผาศพนั้นแทน นางอัคคีก็พยายามจะทำลายด้วยการถอนโยนทิ้งลงแม่น้ำ ก็ปรากฏว่าเทวดา อินทร์ พรหม ครุฑ นาค ได้บันดาลให้จำปาไหลทวนน้ำขึ้นไปพบกับพระฤาษีตาไฟชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ พร้อมให้ฤทธิ์เดชแก่กุมารทั้งสี่ จากนั้นก็ไปตีเมืองของพระบิดาเป็นการแก้แค้น และกราบทูลความจริงต่างๆ ให้ท้าวจุลนีทราบ จึงพากันไปรับตัวนางคำกองกลับเข้าเมืองอย่างยิ่งใหญ่ ส่วนนางอัคคีได้รับผลกรรมด้วยการไปเป็นคนเลี้ยงหมูแทนนางคำกองจนเสียชีวิต ซึ่งเจดีย์ที่เหลือเป็นซากอิฐเรียงเป็นชั้นๆ มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุม อยู่ภายในบริเวณวัดป่าดงหมู ชาวบ้านเรียกซากเจดีย์นี้ว่าธาตุนางคำกอง แต่บางกระแสสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นธาตุนางอัคคี

สำหรับรูปปั้นไอ้ขวดหรือบักหำขวด ได้รับเมตตาจากหลวงปู่บุญ ปริปุณณสีโล เจ้าอาวาส วัดศิรีอรัญรุกขาวาส (วัดปอแดง) หมู่ 4 บ้านปอแดง ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา พระเถราจารย์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในจังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันสิริอายุ 85 ปี พรรษา 49 มอบไม้ตะเคียนทองให้มาอุดใต้ฐานบัดหำขวด จึงมีฤทธานุภาพเข้มขลัง โดยเส้นทางไปวัดป่าบ้านดงหมู หรือสำนักสงฆ์ป่านางคำกอง หมู่ 10 ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม อยู่ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212(ถนนชยางกูร) ห่างจากตัวเมืองนครพนมประมาณ 5 กิโลเมตร ไปทางอำเภอธาตุพนม สอบถามชาวบ้านแถวนั้นจะทราบทันที