พลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลการจับผู้ต้องหาชาวต่างชาติ หลบหนีคดีเข้ามาซุกซ่อนในไทย โดยมีคดีที่น่าสนใจ เช่น คดีที่ตำรวจสืบสวน ตรวจคนเข้าเมือง 5 จังหวัดเชียงใหม่ จับนายเฟอร์บิ หรือ โนอาร์ หรือ นัว ชาวแคมเมอรูน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกง และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ หลังหลอกลวงผู้เสียหายให้ทำธุรกิจเทรดบิตคอย และเทรดฟอร์เร็กซ์ อีกทั้ง ยังพบอยู่ในไทยเกินกำหนดกว่า 4 ปี จึงดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนขยายผล ตรวจค้นหอพักหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ที่นายเฟอร์บิ พักอาศัย ยังพบ นายอีวาน สัญชาติเดียวกัน ซึ่งตรวจพบอยู่เกินกำหนดกว่า 4 ปีเช่นกัน โดยเข้ามารับจ้างเป็นนักฟุตบอล จึงจับกุมดำเนินคดีฐาน เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด

ด้านตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก ยังสามารถจับชาวจีน และเวียดนาม ได้ภายในอาคารผู้โดยสารขาออก ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด โดยในส่วนของชายชาวจีน ตรวจหนังสือเดินทางเบื้องต้น เชื่อว่า ไม่น่าใช่คนเดียวกัน จึงเชิญตัวไปตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลโดยใช้เครื่องตรวจระบบไบโอเมตทริกส์ พบว่า เปอร์เซ็นต์ความเหมือนต่ำ จึงซักถามเพิ่มเติม ผู้ต้องหายอมรับว่า ใช้หนังสือเดินทางบุคคลอื่นในการเดินทาง อีกทั้ง ยังพบว่า เดินทางออกจากไปไทยไปแล้วช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย - เมียนมา แห่งที่ 2 ก่อนลักลอบกลับเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติอีกครั้ง

ส่วนหญิงชาวเวียดนาม พบว่า มีการออกจากไทยไปแล้วในช่วงเดือนมีนาคม ก่อนลักลอบเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติเช่นกัน ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่สอด ดำเนินคดีตามกฎหมาย ทำให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มในการตรวจตราชาวต่างชาติ ที่ใช้ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด ในการเดินทางไปยังจังหวัดอื่น ๆ ของไทย เพื่อเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19