วันที่ 13 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดชุมพรได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน “หว่ามก๋อ” จากทะเลจีนใต้ตอนกลาง ส่งผลให้จังหวัดชุมพรเกิดฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนหลายพื้นที่ทั้ง 8 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ท่าแซะ ปะทิว  สวี ทุ่งตะโก  หลังสวน  ละแม พะโต๊ะ และเมืองชุมพร  แต่พื้นที่อำเภอสวีมีปริมาณน้ำฝนประมาณ 150 มิลลิเมตร(มม.) ซึ่งฝนตกหนักที่สุดกว่าอำเภออื่นๆรองลงมาคืออำเภอทุ่งตะโกวัดปริมาณน้ำฝนได้ 70 มิลลิเมตร(มม.)

อำเภอสวีได้รับผลกระทบหนักที่สุดกระจายในหลายตำบลโดยเฉพาะบนถนนสายเอเชีย 41 ใกล้สามแยกเข้าตัวอำเภอสวี ซึ่งภายใน 3 วันนี้ได้รับผลกระจากมาแล้ว 2 ครั้ง โดยมีมวลน้ำสูงประมาณ 30 เซนติเมตรไหลเอ่อท่วมเส้นทางยาวประมาณ 100 เมตร ทำให้เดินรถได้เพียง 1 ช่องทางเดียว มีรถติดสะสมยาวประมาณ 1-2 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชุมพรและหมวดทางหลวงสวี ร่วมกู้ภัยช่วยให้สัญญาณจราจรระบายรถอย่างเร่งด้วย ในขณะเดียวกันที่บ้านของนายน่าม  ธนาศรีพร อายุ 98 ปี หมู่ 3 ตำบลสวี ต้องนำกระสอบทรายมากั้นเพื่อไม่ให้น้ำเข้าบ้าน แต่เอาไม่อยู่น้ำท่วมสูงทรัพย์สินในบ้านเสียหายหลายอย่าง 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางสำรวจพื้นที่น้ำท่วมในตำบลครน รอยต่อตำบลสวียังพบอีกว่าบ้านของ นางเหม ดำสนิท  อายุ 96 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงโดยมีลูกสาวอายุ 73 ปี คอยดูแลอยู่ภายในบ้านชั้นสองส่วนชั้นล่างเกิดน้ำท่วมสูงถึงหน้าอกไม่สามารถสิ่งของเสียหาย ไม่สามารถออกไปไหนได้ โดยบอกว่ายังไม่ได้กินข้าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสวีเดินทางมาถึงจึงได้ติดต่อประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากมทบ.44 ค่ายเขตอุดมศักดิ์ จ.ชุมพร เข้าให้การช่วยเหลือ พร้อมทั้งออกช่วยเหลือประชาชนโดยสนธิกำลังร่วมกำนันผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่อบต.ครน ลงเก็บผกตบชวาสิ่งปฏิกูลปิดกั้นทางน้ำบริเวณสะพานห้วยจรเข้ บนถนนสายเอเชีย 41 ทั้งนี้เพื่อเปิดทางให้น้ำไหลระบายลงคลองใหญ่ได้สะดวกป้องกันน้ำท่วมบ้านเรือประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงห้วยดังกล่าวด้วย