ตัดสินประหารชีวิต "หนุ่มจีนวัย 28" บีบคอ-ชิงทรัพย์อาม่าวัย 70 จนสิ้นใจคาคอนโด
25 ก.ค. 2562, 14:23

เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องพิจารณา 801 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.1189/2562 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวูซู หมิง อายุ 28 ปี สัญชาติจีน เป็นจำเลย ในความผิดฆ่าผู้อื่นเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่นชิงทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
กรณีเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 62 เวลากลางวัน จำเลยลวง น.ส.อารยา ทรัพย์สวรรค์ อายุ 70 ปี แม่ค้าขายเสื้อผ้า เข้าไปในห้องพักเลขที่ 564/38 คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ในซอยพหลโยธิน 52 แยก 16 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. แล้วใช้มือบีบคอ น.ส.อารยา จนสิ้นใจตาย ก่อนลักเอาเงินสดและทรัพย์สินหลายรายการรวม มูลค่า 95,000 บาท หลบหนีไป ก่อนถูกตำรวจสน.บางเขน ติดตามจับกุมดำเนินคดี ในชั้นจับกุมและสอบสวนจำเลยรับสารภาพ
วันนี้เจ้าหน้าราชทัณฑ์เบิกตัวจำเลย จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อมาฟังคำพิพากษา

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยนำสืบรับฟังได้ว่า ตามวันเวลาผู้ตายถูกฆ่ารัดคอในคอนโดมิเนียม โจทก์มีบุตรชายของผู้ตายเป็นพยานเบิกความว่าก่อนเกิดเหตุ มารดาเคยเล่าให้ฟังว่า จำเลยเคยมาขอยืมเงิน 1 แสนบาท และนัดให้นำเงินไปให้ที่คอนโดดังกล่าว แต่บุตรชายของผู้ตายได้บอกว่าไม่ต้องไป
กระทั่งเวลา 21.00 น. วันเกิดเหตุ บิดาของพยานโทรมาบอกว่าผู้ตายยังไม่กลับบ้าน จึงออกตามหา และมาที่คอนโดดังกล่าว เวลา 23.00 น. เจอรถของผู้ตายจอดอยู่ ตรวจสอบห้องพักถูกล็อคจากด้านใน พยานจึงได้ใช้ไฟฉายส่องเข้าไปในบานเกร็ด เห็นผู้ตายนอนเสียชีวิตลักษณะนอนหงายอยู่บนเตียง สภาพศพถูกรัดบริเวณลำคอจนขาดอากาศหายใจ ตรวจสอบทรัพย์สินในห้องพักหายไปหลายการ
![]()
และจากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายพบว่า ติดต่อกับจำเลยหลายครั้งก่อนเกิดเหตุ รวมถึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าผู้ตาย และจำเลยเข้าไปในห้องพักด้วยกัน ก่อนที่จำเลยจะออกมาจากห้องเพียงคนเดียว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน จับกุมตัวจำเลยได้ ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพ จากการตรวจสอบร่างกายจำเลย มีรอยถลอกที่บริเวณข้อมือด้านขวา ซึ่งจำเลยให้การว่ารอยถลอกเกิดจากการต่อสู้กัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานไปยัง รพ.ภูมิพล ให้ตรวจสอบเนื้อเยื่อสารพันธุกรรมที่ปลายเล็บของผู้ตาย ผลการตรวจพิสูจน์เนื้อเยื่อมีดีเอ็นเอตรงกันกับจำเลย
เห็นว่าโจทก์มีพยาน ซึ่งเป็นบุตรชายของผู้ตายมาเบิกความตามลำดับเหตุการณ์เชื่อมโยงกันมีน้ำหนักสมเหตุสมผล และพยานไม่มีเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน จึงเชื่อว่าพยานเลิกความไปตามจริง นอกจากนี้ ผลตรวจสอบดีเอ็นเอเนื้อเยื่อสารพันธุกรรมที่ปลายเล็บของผู้ตายก็ตรงกับจำเลย จึงเชื่อว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิด

พิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น เพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่นชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ให้ประหารชีวิต, ฐานเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ให้จำคุก 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ฐานฆ่าผู้อื่นฯ จำคุก 25 ปี และฐานเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นฯ จำคุก 6 เดือน รวมโทษจำคุก 25 ปี 6 เดือน และให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมแก่บุตรชายผู้ตาย 1 ล้านบาท ถ้ามีความคืบหน้าจะมารายงานเพิ่มเติม





